วันนี้ (14 เม.ย.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2563 ได้ส่งหนังสือสอบถามความคืบหน้าคดีฟอกเงินกรุงไทย กรณี นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ รับเช็ค 10 ล้านบาท ถึง นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด, นพ.ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม มีเนื้อหาสรุปได้ว่า ตามที่สื่อมวลชนมีการตั้งข้อสงสัยในการปฏิบัติหน้าที่ราชการของดีเอสไอ ตนได้ติดตามคดีนี้มาตั้งแต่ขณะเป็น ส.ส. โดยยึดหลักยุติธรรม และประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ และเป็นคดีที่สนใจของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ จึงขอเรียนถามอัยการสูงสุด/อธิบดีดีเอสไอ ในฐานะเจ้าพนักงานตามกฎหมายว่า 1. สถานะของคดีนี้ ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนใด 2. อัยการสูงสุด/ดีเอสไอ จะอุทธรณ์คดีนี้หรือไม่ อย่างไร จึงขอให้สำนักงานอัยการสูงสุด/ดีเอสไอ รีบดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนต่อไป และโปรดแถลงข้อสงสัยของประชาชนโดยด่วนที่สุด แม้ว่าจะอยู่ในช่วงโรคโควิด-19 ระบาดก็ตาม ทั้งนี้ เพื่อรักษาไว้ซึ่งหลักนิติรัฐและนิติธรรม
นายวัชระ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้ส่งหนังสือสอบถามอัยการสูงสุดอย่างเป็นทางการแล้ว ยังไม่คืบหน้าประการใด แต่มีกระแสข่าวว่าอัยการสูงสุดเห็นชอบกับการไม่อุทธรณ์คดีของนายพานทองแท้ ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ เพราะคดีนี้เป็นที่สนใจของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ การสั่งไม่อุทธรณ์คดีดังกล่าวยึดหลักการอะไร ชอบด้วยหลักนิติรัฐนิติธรรมหรือไม่ ควรแถลงเรื่องนี้ให้โปร่งใสกับสาธารณชน เพราะเป็นคดีที่เกี่ยวพันกับนายทักษิณ ซึ่งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการอนุมัติสินเชื่อให้กับกลุ่มกฤษดามหานคร กลับปรากฏว่า ถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุกจำนวนหลายสิบคน
“ผมอยากฝากท่านวงศ์สกุล อัยการสูงสุดคนปัจจุบัน กรุณาถามนายวิโรจน์ นวลแข (อดีต) ประธานบอร์ดธนาคารกรุงไทย ดูว่าท่านจุลสิงห์ (วสันตสิงห์) อัยการสูงสุดก่อนหน้าท่าน รับปากอะไรนายวิโรจน์ไว้หรือไม่ และทำได้หรือไม่ แล้วคดีนั้นเกี่ยวพันกับคดีนายพานทองแท้หรือไม่ ชะตากรรมที่นายวิโรจน์กับพวกได้รับหรืออะไร เพื่อเป็นอุทาหรณ์” นายวัชระ กล่าว