ผช.รมต.สำนักนายกฯ ย้อนเลขาฯ พท.ต้องทราบดีโควิด-19 ส่งผล ศก. รัฐต้องหามาตรการเยียวยา ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งกู้แบบรัฐบาลในอดีต ไม่ต้องห่วงวินัยการคลัง แนะชะโงกจากห้องแอร์มาช่วยกันคิด หมดเวลาเล่นการเมือง
วันนี้ (29 มี.ค.) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่กระทรวงการคลังจะกู้เงินมาเพื่อเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจอันเกิดจากวิกฤตโควิด-19 ว่า ฝ่ายค้านก็ทราบดีว่าโควิดส่งผลวิกฤตต่อเศรษฐกิจทั้งโลก ฉะนั้น การที่กระทรวงการคลังเตรียมหลายมาตรการรวมถึงการกู้เงินเพื่อเยียวยานั้นถูกต้องแล้วไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“ไปอ่านให้ดี คำให้สัมภาษณ์ของรองนายกรัฐมนตรีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์และรัฐมนตรีคลัง นายอุตตม สาวนายน ท่านไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาแต่จะกู้เงินท่าเดียวเหมือนรัฐบาลในอดีต แต่กระทรวงการคลังมีมาตรการหลายๆ ชุดออกมา ตั้งแต่การใช้เศรษฐกิจพอเพียงเข้ามาช่วย ไปจนถึงการกู้เงินกว่า 2 แสนล้านเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และจะทำก็ต่อเมื่อมีความจำเป็นจริงๆ เท่านั้น ไม่ต้องห่วงเรื่องวินัยการเงินการคลัง ฐานะเรายังกู้ได้อยู่" นายสุภรณ์กล่าว และว่า ส่วนข้อเสนอให้รัฐบาลโยกงบปี 63 แทนการกู้เงินนั้น ขั้นตอนอาจจะยุ่งยากจะต้องออกกฎหมายเข้าสภาซึ่งต้องใช้เวลาและมีขั้นตอนอีกมากมาย และ พ.ร.บ.63 ก็มีผลทางกฎหมายที่ต้องใช้กับความจำเป็นที่กำหนดแผนนโยบายไว้แล้ว
นายสุภรณ์กล่าวว่า พอเกิดโรคโควิด-19 วันนี้ย่อมส่งผลกระทบธุรกิจหยุดชะงัก กระทบทุกระดับในภาพรวม เห็นภาพแล้วยอมรับว่าเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่งผลกระทบเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยและทั่วโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ หาทุกมาตรการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน อย่างการเยียวยาคนละ 5 พันบาท เป็นเวลา 3 เดือน อาจไม่ใช่เงินที่มากมาย แต่พอบรรเทาความทุกข์ระทมของพี่น้องประชาชนได้ การที่มีคนไปลงทะเบียนถึง 10 ล้านคนนั้นแสดงว่าประชาชนเขาเดือดร้อนจริงๆ จึงมารับความช่วยเหลือจากรัฐบาล
“ฝ่ายค้านน่าจะชะโงกหน้าจากห้องแอร์เย็นๆ มาดูบ้าง และช่วยกันคิดว่าจะช่วยรัฐบาลอย่างไร ดีกว่านั่งหาประเด็นมาซ้ำเติมกัน หมดเวลาเล่นการเมืองแล้ว ผมต้องขอร้องทางพรรคเพื่อไทยจริงๆ ในช่วงนี้ให้เข้าใจกัน ถ้าท่านเป็นรัฐบาลก็ต้องเจอภาระที่หนักหน่วงเหมือนกัน เราจึงไม่มีเวลามาทะเลาะหรือเล่นวาทะกันแล้วครับ"