ปธ.สภาฯ รับมอบหน้ากากหมื่นชิ้นจากทูตจีน ย้ำรัฐสภาเป็นหน่วยงานราชการปิดไม่ได้ สั่ง กมธ.หยุดประชุมไม่ได้อยู่ที่วุฒิภาวะ แจงแม้อายุเลย 70 ยังต้องทำงานตามหน้าที่ จ่อเรียกพรรคการเมืองหารือหามาตรการรองรับ
วันนี้ (27 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.15 น. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รับมอบหน้ากากอนามัยจากนางหยาง หยาง ที่ปรึกษาฝ่ายการเมืองสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย จำนวน 10,000 ชิ้น
นางหยางกล่าวภายหลังจากมอบหน้ากากอนามัยว่า ต้องขอขอบคุณประเทศไทย เพราะเมื่อครั้งที่จีนประสบความยากลำบากตั้งแต่เริ่มต้นเผชิญการแพร่ระบาดไว้รัสโควิด-19 เราได้รับน้ำใจจากเพื่อนชาวไทย และจากกรณีที่นายชวนกล่าวถึงการแก้ปัญหาของจีนที่เริ่มประสบความสำเร็จแล้วนั้น ผลงานที่เราได้ประสบมาเป็นการสนับสนุนจากประชาชนชาวโลกและจากชาวไทยด้วย เราต้องขอบคุณอีกครั้งสำหรับน้ำใจที่มาจากสถาบันกษัตริย์ รัฐสภา จากสมาคมต่างๆ ไปจนถึงชาวบ้านชาวไทยที่สนับสนุนและเชียร์เราตลอดมา และได้มีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการต่อสู้กับโควิด-19 เราเชื่อมั่นว่าต้องชนะได้ในเร็ววัน อย่างเช่นเมื่อคืนที่แล้ว นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้ประชุม G20 ซึ่งเป็นการประชุมพิเศษ ท่านได้กล่าวไว้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดในปัจจุบันนี้คือ สมาคมโลกนี้ต้องสร้างความเชื่อมั่น ร่วมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน กระชับความร่วมมือในด้านต่างๆ เพื่อที่จะชนะการระบาดของโรคโควิด-19 เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะสามารถกลับไปสู่ชีวิตปกติได้
ด้านนายชวนกล่าวว่า รัฐสภาขอถือโอกาสขอบคุณนางหยางซึ่งเป็นตัวแทนสาธารณรัฐประชาชนจีนในการมอบหน้ากาก แม้จำนวนหน้ากากไม่มากนักก็ตามแต่มากด้วยน้ำใจ ทั้งนี้ หน้ากากจำนวนดังกล่าวจะได้มอบให้กับหน่วยงานที่จำเป็นต้องใช้ต่อไป เช่น โรงพยาบาล เป็นต้น ส่วนเจ้าหน้าที่ของสภาที่อยู่ในระดับเสี่ยงบ้างก็ให้ใช้หน้ากากผ้าแทน
นายชวนยังกล่าวถึงกรณีที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เรียกร้องให้ปิดอาคารรัฐสภา โดยอ้างถึงความกังวลของข้าราชการกลัวติดไวรัสโควิด-19 ว่า อาคารรัฐสภาไม่สามารถปิดได้เพราะเป็นสถานที่ราชการรวมถึงหน่วยงานราชการต่างๆ ก็ไม่สามารถปิดได้เช่นกัน เพียงแต่ขอความร่วมมือ เช่น ไม่เดินทาง ไม่อยู่ในที่แออัดเกินไป ส่วนข้าราชการบางส่วนที่ไปทำงานตามอาคารเช่าต่างๆ เท่าที่ไปตรวจเยี่ยมมามีสภาแออัด ซึ่งก็ได้มีการปรับให้ส่วนหนึ่งกลับไปทำงานที่บ้าน เพื่อให้เกิดความไม่หนาแน่นเกินไปซึ่งตนก็เห็นด้วย
เมื่อถามถึงการประชุมของคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ของสภาผู้แทนราษฎร นายชวนกล่าวว่า ส่วนใหญ่การทำงานของคณะกรรมาธิการไม่มีการประชุมแล้ว แต่ก็เหลือเพียงคณะ กมธ.ป.ป.ช. ก็ต้องให้เกียรติเขาในการพิจารณาว่าจะประชุมต่อไปหรือไม่ เพราะเชื่อว่าทุกคนมีวุฒิภาวะแล้ว ส่วนจะสั่งให้ปิดเลยเป็นไปไม่ได้ ต้องทำงานตามปกติ
ถามถึงนายชวนเป็น 1 ใน 3 บุคคล ที่รัฐบาลแนะนำว่าควรอยู่ที่บ้าน นายชวนกล่าวว่า ตนมาทำงานตามปกติ เพราะยังมีงานต้องทำ ต้องเซ็นเอกสาร และในวันที่ 1 เม.ย.ก็ยังมีการประชุมของรัฐบาลเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ อีกทั้งงานพระราชพิธีสำคัญ ที่มีการปรับให้ไปร่วมงาน 1-2 คน แทนที่จะไปกันเป็นกลุ่มซึ่งเป็นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัส
“เราต้องเตรียมเพื่อไม่ให้ประมาท หากสถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ เช่น หากมีการระบาดรุนแรงไปจนถึงเดือน พ.ค. ก็ต้องคิดเผื่อว่าจะใช้ระบบประชุมอย่างไร เพราะจะอ้างว่ามีการแพร่ระบาดแล้วจะงดประชุมก็ไม่ได้ ขณะนี้กำลังติดตามการก่อสร้าง โดยเฉพาะห้องประชุมสุริยันซึ่งเป็นห้องประชุม ส.ส.ที่มี 800 ที่นั่ง หากประชุม 400-500 คน ในกรณีที่เป็นกฎหมายสำคัญของรัฐบาล เช่น งบประมาณแผ่นดิน ที่กำลังจะเสนอเข้ามาก็ต้องเตรียมการว่าจะใช้วิธีการอย่างไร เช่น ส.ส.1 คน นั่งเว้นเก้าอี้ 3 ตัว ได้หรือไม่ เราก็ยังไม่ได้ข้อยุติ แต่ถ้าได้ข้อสรุปก็จะเชิญพรรคการเมืองมาหารืออีกครั้ง” ประธานสภาฯ กล่าว
นายชวนกล่าวต่อว่า ตนจะติดตามทุกสัปดาห์ว่าจะปรับการทำงานของสภาอย่างไร เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นมาอาจถูกตำหนิได้ ที่สำคัญสภาต้องทำหน้าที่ของตัวเองเหมือนกับหน่วยงานราชการอื่น และข้าราชการสภาก็ต้องทำหน้าที่ของเขา