“สันธนะ” ยื่นคำร้อง กกต. ทบทวนกรณี “ชนม์สวัสดิ์” ปราศรัยช่วย พปชร. เข้าข่ายครอบงำ ฉะวินิจฉัยคนละประเด็น ข้องใจประวิงเวลาเลย 1 ปี เอื้อ พปชร.ไม่ต้องเสียคะแนน
วันนี้ (25 มี.ค.) นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ได้เดินทางมายื่นคำร้องเพื่อติดตามเรื่องที่ได้มายื่นคำร้องไว้เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2562 กรณีขอให้ กกต.วินิจฉัยสั่งยุบพรรคพลังประชารัฐ จากการให้ นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ อดีตนายก อบจ.สมุทรปราการ ถูกศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ทำให้มีลักษณะต้องห้ามของการเป็นสมาชิกพรรค ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ และเข้าข่ายครอบงำ ชี้นำกิจกรรมของพรรค โดย นายสันธนะ กล่าวว่า เรื่องที่ตนยื่นนั้น มีพยานหลักฐานชัดเจน ประเด็นไม่ได้มีข้อยุ่งยาก แต่ กกต.กลับใช้เวลาในการพิจารณานานมาก คล้ายประวิงเวลา อีกทั้งเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 63 กกต.ได้มีหนังสือมาถึงตนระบุว่าเป็นการแจ้งคำวินิจฉัย กกต. แต่อ่านแล้วกลับไม่ใช่เรื่องที่ตนยื่นร้อง เพราะตนไม่เคยร้องกล่าวหา น.ส.ภริม พูนเจริญ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ แต่อย่างใด และแม้จะมีการวินิจฉัยในประเด็นว่า นายชนม์สวัสดิ์ ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงในนามพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานหอการค้า จ.สมุทรปราการ ไม่ปรากฏหลักฐาน ว่า นายชนม์สวัสดิ์ กระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมือง หรือสมาชิกขาดความอิสระ แต่ก็เป็นคนละประเด็นกัน ตนจึงขอโต้แย้งคำวินิจฉัยของ กกต.ในส่วนนี้ และขอให้ กกต.ทบทวน รวมทั้งเมื่อพิจารณาถึงเวลาในการพิจารณาคำร้องและการแจ้งคำวินิจฉัยของ กกต.แล้ว เห็นว่า มีระยะเวลายาวนาน ขณะที่เรื่องที่ร้องไม่ได้มีความซับซ้อน พยานหลักฐานก็ชัดเจน การที่ กกต.แจ้งผู้ร้องในระยะกระชั้นชิด กับระยะเวลาครบ 1 ปี นับแต่มีการเลือกตั้ง 24 มี.ค. 62 ซึ่งจะไม่ต้องมีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ จึงเห็นว่า กกต.จงใจประวิงเวลา เพื่อให้ตนไม่สามารถยื่นคัดค้านได้ทัน เพื่อช่วยเหลือพรรคพลังประชารัฐให้ไม่ต้องเสียคะแนน หากพบทุจริตต้องมีการเลือกตั้ง แต่ก็จะไม่มีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่