“นายกฯ” สวมหน้ากากผ้าลายไทย พยักหน้ารับผอมลง “บิ๊กอ๊อด-แต้จิ๋ว” บริจาคเงินสมทบกองทุนโควิด-19 รวม 15 ล้าน “สื่อทำเนียบฯ” ยกระดับมาตรการรับผิดชอบสังคม “ชายนิรนาม” ดอดชูป้ายก่อนเข้าทำเนียบฯ
วันนี้ (17 มี.ค.) เมื่อเวลา 08.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีรัฐมนตรี (ครม.) โดยนายกฯ ได้สวมหน้ากากอนามัยแบบผ้าลายไทย ซึ่งมีลายแบบเดียวกับเสื้อที่สวมใส่ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงนี้นายกฯ ดูผอมลง นายกฯ พยักหน้ายอมรับ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ขบวนรถของนายกฯ เดินทางมาถึงบริเวณหน้าป้ายหยุดรถประจำทาง บริเวณมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ได้มีชายไม่ทราบชื่อชูป้ายในลักษณะต่อต้านนายกรัฐมนตรี จากนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่รุดไปตรวจสอบ ปรากฏว่าชายคนดังกล่าวได้ขึ้นรถเมล์หายไปแล้ว ไม่แน่ชัดว่าเป็นคนกลุ่มไหน
โดยก่อนการประชุมสมาคมที่ห้องรับรองตึกบัญชาการ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อมอบเงินสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อโควิด-19 ในนามของ มูลนิธิ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง จำนวน 10 ล้านบาท ขณะเดียวกัน นายแสงชัย โสตถีวรกุล นายกสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย ก็ได้มอบเงินสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคโควิด 5 ล้านบาท เพื่อเข้ากองทุนสนับสนุนการดำเนินการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
พล.ต.อ.สมยศให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรัฐบาลมีมาตรการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยให้ยกเลิกการแข่งขันกีฬาทุกประเภทว่า ถ้าเป็นนโยบายรัฐบาลเราไม่สามารถฝ่าฝืนได้ แต่ที่จริงแล้วเราก็มีมาตรการเข้มงวดเป็นขั้นเป็นตอนอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องการคัดกรองและให้แข่งขันแบบปิดที่มีแต่นักกีฬา ทีมงาน และผู้สื่อข่าวเข้าสนามเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า จากการยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในส่วนของสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานเพื่อเป็นการลดการแพร่ระบาดและการติดเชื้อ โดยปรับเปลี่ยนวิธีการสัมภาษณ์แหล่งข่าวโดยจากนี้ไปจะไม่มีการรุมและเบียดกันสัมภาษณ์ แต่ใช้วิธีการเชิญแหล่งข่าวมายืนที่ไมโครโฟนหรือในระยะห่างเกิน 2 เมตรเพื่อให้สัมภาษณ์หรือตอบคำถาม โดยได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่สำนักโฆษกสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีตั้งไมโครโฟนตามจุด ซึ่งมาตรการดังกล่าวเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่กระจายและการสัมผัสกับเชื้อโรค ถือเป็นการรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น นอกจากนี้ สื่อมวลชนทำเนียบฯ ได้เน้นย้ำการปฏิบัติตนของผู้สื่อข่าวกันเองในเรื่องการกินร้อน ช้อนตัวเอง ล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัย รวมถึงหลีกเลี่ยงอยู่ในที่ที่มีคนจำนวนมาก