ว่าที่หัวหน้าก้าวไกล ชี้พรรคคือบทที่ 2 ของอนาคตใหม่ ยันสืบทอดเจตนารมย์ ไม่ใช่พรรคชั่วคราวแต่พาการเมืองสู่ประชาธิปไตย สับรัฐล้มเหลวแก้ปัญหา โวถ้าเป็นรัฐบาลจะเอางบไปสร้างคน วิจัยหาวัคซีนต้านโควิด-19 พร้อมสานต่อร่าง พ.ร.บ.ที่เคยทำ เลิก ส.ว.แต่งตั้ง ยุทธศาสตร์ชาติ แก้ที่มาองค์กรอิสระ ทำงานควบคู่ความเคลื่อนไหวประชาชน
วันนี้ (14 มี.ค.) ที่พรรคก้าวไกล เมื่อเวลา 14.30 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและว่าที่หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อหน้าสมาชิกพรรคระบุว่า เป็นเวลากว่า 23 วัน ที่พรรคอนาคตใหม่ถูกทำให้หายไปจากการเมืองไทย และ ส.ส.ต้องไร้พรรค แต่วันนี้เราได้ย้ายเข้าสู่บ้านใหม่กับพรรคก้าวไกล ตนขอบคุณกำลังใจจากทุกคนที่เป็นเชื้อไฟให้เดินหน้าต่ออย่างไม่ย่อท้อ พรรคก้าวไกล คือ บทที่ 2 ของอดีตพรรคอนาคตใหม่ คือ พรรคที่สืบทอดเจตนารมณ์อดีตพรรคอนาคตใหม่ จะยังเป็นความหวังให้กับคนที่สิ้นหวัง เป็นปากเสียงให้กับคนตัวเล็กตัวน้อย จะไม่ใช่พรรคชั่วคราวแต่จะเป็นพรรคที่นำพาการเมืองไทยกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย เปลี่ยนระบบนิติรัฐทำให้ประชาชนมีกฎหมายเสมอภาคเท่าเทียมกัน
นายพิธา กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ กำลังเผชิญกับวิกฤตรอบด้านที่แสดงให้เห็นแล้วว่ารัฐบาลปัจจุบันไม่สามารถนำพาประเทศไปต่อได้และจะทำให้คนทั้งชาติลงเหว ชีวิตของประชาชนถูกกำหนดโดยอภิสิทธิชน กองทัพ ข้าราชการ และกลุ่มทุนผูกขาด รัฐบาลล้มเหลวไม่ว่าจะวิกฤติโควิด-19 , ฝุ่นพิษ , เศรษฐกิจที่ตกต่ำที่สุดในประวัติการณ์ , การเมืองที่เกิดจากรัฐธรรมนูญของ คสช. , การบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพและขาดเอกภาพ , องค์กรอิสระที่เลือกปฏิบัติ
นายพิธา ยังเสนอทางแก้ไขปัญหาโรคโควิด-19 หากได้เป็นรัฐบาลว่า จะงบประมาณไปสร้างงานสร้างบุคลากร เพิ่มงบวิจัยเพื่อคิดค้นพัฒนาวัคซีนต้านไวรัส ส่วนนโยบายจากพรรคอนาคตใหม่ก็จะผลักดันทั้ง ร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร , ร่าง พ.ร.บ. สุราก้าวหน้า ซึ่งขณะนี้ร่างเสร็จสมบูรณ์อยู่ระหว่างเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร พร้อมทั้งเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ประชาชนมีอำนาจต่อรองมากขึ้น ยกเลิก ส.ว.แต่งตั้ง และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แก้ที่มาขององค์กรอิสระให้ยึดโยงกับประชาชน ซึ่งมองว่าสถานการณ์ขณะนี้การเปลี่ยนแปลงในสภาจะช้าเกินไป เพราะผู้มีอำนาจทำให้สภาอ่อนแอเป็นแค่ตรายางของรัฐบาล เห็นได้จาก ส.ส.จากอดีตพรรคอนาคตใหม่ที่มี 84 คน แต่วันนี้มี ส.ส. ที่เหลือมาสมัครเข้าพรรคก้าวไกลจำนวน 54 คน ขณะที่การเคลื่อนไหวของนักศึกษาก็เพื่อส่งเสียงให้ทราบว่าต้องการประเทศที่มีอนาคตกว่านี้ ซึ่งภารกิจของพรรคคือการยืนหยัดทำหน้าที่ในสภาเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมให้ก้าวไปข้างหน้า โดยจะทำงานควบคู่กับความเคลื่อนไหวของประชาชน