“วิษณุ” เปิดทำเนียบรัฐบาลคุย “เจโทร” รับทราบความรู้สึกบริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่บ่นเรื่องระบบขนส่ง-ศุลกากร เผยวิกฤตโควิด-19 ซ้ำเติมสถานการณ์
วันนี้ (5 มี.ค) เมื่อเวลา 10.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการพูดคุยกับนายอัตสึซิ ทาเคทานิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย (Japan External Trade Organization : JETRO Bangkok) ว่า เจโทรเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่วิจัยและสำรวจความคิดเห็นของนักลงทุนญี่ปุ่น ปัจุบันมีนักลงทุนญี่ปุ่นอยู่ในประเทศไทยนับหมื่นราย ทางองค์กรจะสำรวจทุก 6 เดือนก่อนจะมารายงานให้รัฐบาลทราบว่านักลงทุน ทั้งยักษ์ใหญ่ ยักษ์เล็ก ได้บ่นหรือเรียกร้องอะไรบ้าง ในวันนี้ก็มารายงานสรุปรอบ 6 เดือนสุดท้ายของปีที่แล้วให้ทราบ เขาได้ประกาศต่อสาธารณชนไปแล้วเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ มีข้อมูลที่น่าสนใจว่า ญี่ปุ่นรู้สึกไม่ค่อยจะดีนักในเรื่องของการลงทุน แต่สาเหตุก็มาจากเงินบาทของไทยแข็ง และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ทำให้การค้าและการลงทุนไม่ค่อยบูมเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ค่าเงินบาทอ่อนลงอยู่ที่ 31.45 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนก็ดูจะจับมือกันบ้างแล้ว แต่ก็เกิดไวรัสโควิด-19 ขึ้น จึงกลายเป็นอีกเหตุหนึ่ง
รองนายกฯ กล่าวอีกว่า จากการสำรวจบริษัทญี่ปุ่น 7,000 กว่าแห่ง พบว่าสิ่งที่ญี่ปุ่นยังคงบ่นกับประเทศไทยอยู่จะวนเวียนอยู่ใน 2-3 ข้อ จากจำนวน 10 อันดับ ซ้ำๆ ซากๆ ตลอดมา คือ บ่นเกี่ยวกับเรื่องของ Infrastructure หรือโครงสร้างพื้นฐาน เรื่องการขนส่ง เรื่องระบบศุลกากร และเรื่องที่สำคัญอีกเรื่องคือ เรื่องค่าเงินบาท นอกจากนี้ ทางเจโทรยังได้สำรวจเกี่ยวกับเรื่องอีอีซี โดยพบว่าทางญี่ปุ่นครึ่งหนึ่งพอใจที่จะไปลงทุน อีกครึ่งยังไม่ค่อยจะมีความรู้ความเข้าใจเท่าไหร่ ข้อมูลเหล่านี้รัฐบาลไทยควรจะนำมาประกอบการพิจารณา เพราะเขาก็รายงานรัฐบาลญี่ปุ่นด้วย