ผู้จัดการรายวัน 360-"สมคิด"ควง"อุตตม"ลุยญี่ปุ่น พบเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ประธานเจโทร ธนาคารด้านการเกษตร พร้อมนัดหารือบิ๊กอุตสาหกรรมชั้นนำ หวังดึงเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่ม "บิ๊กตู่" แย้มกำลังพิจารณาหยุดยาวสงกรานต์ 9 วัน หวังกระตุ้นการท่องเที่ยว แจงแค่เกลี่ยวันหยุดจากตรงอื่นมาใส่แทน ไม่ได้เพิ่มวันหยุด
น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 17-18 ก.พ.2563บีโอไอได้จัดกิจกรรมชักจูงการลงทุน ณ ญี่ปุ่น โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าคณะ พร้อมด้วยนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรมและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ร่วมเดินทาง โดยนายสมคิดจะได้เข้าพบนายโยชิฮิเดะ สึกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนายโนบุฮิโกะ ซาซากิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือในการส่งเสริมการลงทุนระหว่างสองประเทศ ทั้งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และเกษตรสมัยใหม่ รวมถึงเข้าพบผู้แทนจากธนาคารโนรินจูคิน ซึ่งเป็นธนาคารด้านการเกษตรของญี่ปุ่น เพื่อแสวงหาความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมการเกษตรสมัยใหม่ที่รัฐบาลญี่ปุ่นมีความพร้อม
พร้อมกันนี้ มีกิจกรรมนัดหารือรายบริษัทกับผู้ประกอบการชั้นนำในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อชักจูงให้เข้ามาลงทุน รวมถึงขยายการลงทุนในไทย ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี วัสดุขั้นสูง และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมด้านการเกษตรที่ญี่ปุ่นมีความก้าวหน้า เพื่อชักชวนให้เข้ามาลงทุนในไทยและมีส่วนในการปรับโครงสร้างภาคการเกษตรของไทย ส่วนอุตสาหกรรมในสาขาอื่นๆ คณะชักจูงการลงทุนมีเป้าหมายจะชักชวนให้เข้ามาลงทุนตามมาตรการกระตุ้นการลงทุน ซึ่งเป็นมาตรการที่ให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมแก่โครงการที่เร่งให้เกิดการลงทุนจริงภายในปี 2563-2564
"เป้าหมายหลักของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อให้ข้อมูลการส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการใหม่ๆ ของบีโอไอและกระตุ้นการลงทุนจากนักลงทุนญี่ปุ่น ส่วนการเข้าพบหน่วยงานภาครัฐของญี่ปุ่น นอกจากจะได้หารือด้านความร่วมมือแล้ว ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่นด้วย”น.ส.ดวงใจกล่าว
ทั้งนี้ ในปี 2562 นักลงทุนญี่ปุ่นยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจำนวน 227 โครงการ มีมูลค่าการลงทุน 73,102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% โดยโครงการอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง มากที่สุด คิดเป็น 44% ของโครงการลงทุนทั้งหมดจากญี่ปุ่น หรือจำนวน 100 โครงการ ส่วนในด้านของมูลค่า อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มากที่สุด คิดเป็น 42% ของโครงการลงทุนทั้งหมดจากญี่ปุ่น หรือ 30,421 ล้านบาท
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังให้การต้อนรับคณะผู้แทนสภาธุรกิจสหภาพยุโรป-อาเซียน (EU-ABC) และคณะผู้แทนสมาคมการค้ายูโรเปียนเพื่อธุรกิจและการพาณิชย์ (EABC) ถึงข้อเสนอจากทีมเศรษฐกิจเพิ่มวันหยุดยาว 9 วันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อยุติ อยู่ระหว่างการพิจาณากันอยู่ ไม่ได้เพิ่มอะไร ถ้าจะทำก็ไม่ได้เพิ่มอะไร เป็นเพียงแค่การเกลี่ยวันหยุดจากตรงอื่นมาใส่ตรงนี้แทน ไม่ได้เพิ่มวัน เพราะวันหยุดทั้งปีมีอยู่แล้วเท่าเดิม ขณะนี้เขากำลังพิจารณากันอยู่
เมื่อถามย้ำว่า มีความเป็นไปได้สูงใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวตอบย้ำว่า เขากำลังพิจารณากันอยู่ เข้าใจหรือไม่ ทำไมหรือ อยากได้หรือไม่อยากได้ มีหลายคนเขาก็ไม่อยากได้ เขาอยากทำงาน เราเองก็อยากทำงาน เพียงแต่ว่าจะเพิ่มวันหยุด โดยไม่ได้เกลี่ยของเดิมที่วางไว้ วันหยุดก็จะเพิ่มขึ้นมาอีก เราไม่ต้องการอย่างนั้น เรามาเพิ่มตรงนี้ เพราะว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวขณะนี้มีปัญหา มันดีหรือไม่ เรากำลังให้เขาพิจารณาอยู่ เข้าใจแล้วยัง ทุกอย่างมีเหตุมีผลของมัน ได้ยินหรือไม่
น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 17-18 ก.พ.2563บีโอไอได้จัดกิจกรรมชักจูงการลงทุน ณ ญี่ปุ่น โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าคณะ พร้อมด้วยนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรมและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ร่วมเดินทาง โดยนายสมคิดจะได้เข้าพบนายโยชิฮิเดะ สึกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนายโนบุฮิโกะ ซาซากิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือในการส่งเสริมการลงทุนระหว่างสองประเทศ ทั้งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และเกษตรสมัยใหม่ รวมถึงเข้าพบผู้แทนจากธนาคารโนรินจูคิน ซึ่งเป็นธนาคารด้านการเกษตรของญี่ปุ่น เพื่อแสวงหาความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมการเกษตรสมัยใหม่ที่รัฐบาลญี่ปุ่นมีความพร้อม
พร้อมกันนี้ มีกิจกรรมนัดหารือรายบริษัทกับผู้ประกอบการชั้นนำในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อชักจูงให้เข้ามาลงทุน รวมถึงขยายการลงทุนในไทย ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี วัสดุขั้นสูง และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมด้านการเกษตรที่ญี่ปุ่นมีความก้าวหน้า เพื่อชักชวนให้เข้ามาลงทุนในไทยและมีส่วนในการปรับโครงสร้างภาคการเกษตรของไทย ส่วนอุตสาหกรรมในสาขาอื่นๆ คณะชักจูงการลงทุนมีเป้าหมายจะชักชวนให้เข้ามาลงทุนตามมาตรการกระตุ้นการลงทุน ซึ่งเป็นมาตรการที่ให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมแก่โครงการที่เร่งให้เกิดการลงทุนจริงภายในปี 2563-2564
"เป้าหมายหลักของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อให้ข้อมูลการส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการใหม่ๆ ของบีโอไอและกระตุ้นการลงทุนจากนักลงทุนญี่ปุ่น ส่วนการเข้าพบหน่วยงานภาครัฐของญี่ปุ่น นอกจากจะได้หารือด้านความร่วมมือแล้ว ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่นด้วย”น.ส.ดวงใจกล่าว
ทั้งนี้ ในปี 2562 นักลงทุนญี่ปุ่นยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจำนวน 227 โครงการ มีมูลค่าการลงทุน 73,102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% โดยโครงการอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง มากที่สุด คิดเป็น 44% ของโครงการลงทุนทั้งหมดจากญี่ปุ่น หรือจำนวน 100 โครงการ ส่วนในด้านของมูลค่า อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มากที่สุด คิดเป็น 42% ของโครงการลงทุนทั้งหมดจากญี่ปุ่น หรือ 30,421 ล้านบาท
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังให้การต้อนรับคณะผู้แทนสภาธุรกิจสหภาพยุโรป-อาเซียน (EU-ABC) และคณะผู้แทนสมาคมการค้ายูโรเปียนเพื่อธุรกิจและการพาณิชย์ (EABC) ถึงข้อเสนอจากทีมเศรษฐกิจเพิ่มวันหยุดยาว 9 วันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อยุติ อยู่ระหว่างการพิจาณากันอยู่ ไม่ได้เพิ่มอะไร ถ้าจะทำก็ไม่ได้เพิ่มอะไร เป็นเพียงแค่การเกลี่ยวันหยุดจากตรงอื่นมาใส่ตรงนี้แทน ไม่ได้เพิ่มวัน เพราะวันหยุดทั้งปีมีอยู่แล้วเท่าเดิม ขณะนี้เขากำลังพิจารณากันอยู่
เมื่อถามย้ำว่า มีความเป็นไปได้สูงใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวตอบย้ำว่า เขากำลังพิจารณากันอยู่ เข้าใจหรือไม่ ทำไมหรือ อยากได้หรือไม่อยากได้ มีหลายคนเขาก็ไม่อยากได้ เขาอยากทำงาน เราเองก็อยากทำงาน เพียงแต่ว่าจะเพิ่มวันหยุด โดยไม่ได้เกลี่ยของเดิมที่วางไว้ วันหยุดก็จะเพิ่มขึ้นมาอีก เราไม่ต้องการอย่างนั้น เรามาเพิ่มตรงนี้ เพราะว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวขณะนี้มีปัญหา มันดีหรือไม่ เรากำลังให้เขาพิจารณาอยู่ เข้าใจแล้วยัง ทุกอย่างมีเหตุมีผลของมัน ได้ยินหรือไม่