xs
xsm
sm
md
lg

รบ.ส่งเสริมให้คนไทยและผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยได้รับวัคซีนครอบคลุม-เหมาะสม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รัฐบาลส่งเสริมให้คนไทยและผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ได้รับวัคซีนอย่างครอบคลุม และเหมาะสม เป็นธรรมทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน ส่งเสริมให้ไทยผลิตวัคซีนที่จำเป็นสำหรับใช้ป้องกันโรคที่เป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศ

วันนี้ (4 มี.ค.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 63 เห็นชอบร่างนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. 2563-2565 และรับทราบกรอบวงเงินงบประมาณที่ใช้ดำเนินการตามร่างนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. 2563-2563 รวมทั้งสิ้น 11,078,946,553 บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอ

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ภายหลังจากที่ได้มีการประกาศใช้บังคับพระราชบัญญัติความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. 2561 เป็นกฎหมายแล้วเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2561 สธ.ได้ดำเนินการทบทวนสถานการณ์ด้านวัคซีนทั้งในและต่างประเทศ ประเมินความเสี่ยงภูมิคุ้มกันหรือความเข้มแข็งด้านวัคซีนของประเทศ รวมทั้งทบทวนนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ด้านวัคซีนและด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยผ่านการรับฟังความเห็นจากประชาชนและผู้เชี่ยวชาญในหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และได้นำเสนอคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติพิจารณาเห็นชอบร่างนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. 2563-2565 และกรอบงบประมาณ ซึ่งนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว เป็นแผนที่นำไปสู่การพึ่งตนเองและความมั่นคงด้านวัคซีนอย่างยั่งยืน โดยยึดหลักความสอดคล้องเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในยุทธศาสตร์ที่ 2 การสร้างความสามารถในการแข่งขัน ในการจัดการวัคซีนให้มีความเพียงพอและต่อเนื่อง การวิจัยพัฒนาผลิตวัคซีนเพื่อต่อยอดสู่การผลิต การส่งออก และการบริหารจัดการทรัพยากรด้านวัคซีนของประเทศ และแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ในประเด็นที่ 4 อุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต แผนย่อยอุตสาหกรรมและบริการการแพทย์ครบวงจร อีกทั้งยังมีแนวคิดที่สอดรับกับนโยบายและแผนพัฒนาของชาติ เช่น แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 นโยบายแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2564 แผนยุทธศาสตร์ สธ.20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) (ร่าง) ยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) และแผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 12 อีกด้วย

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ร่างนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. 2563-2565 มีวิสัยทัศน์ ประเทศไทยมีความมั่นคงด้านวัคซีน ประชาชนทุกคนในประเทศเข้าถึงการป้องกันโรคด้วยวัคซีนที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง เป็นธรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบการจัดหาที่สมดุลกับความต้องการและสนับสนุนอุตสาหกรรมวัคซีนของประเทศ และพัฒนาระบบการให้บริการวัคซีน เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายทุกพื้นที่เข้าถึงวัคซีนที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงและทันการณ์ เพื่อสนับสนุนและบูรณาการการวิจัยพัฒนาการผลิตวัคซีน การประกันคุณภาพและการนำไปใช้ให้เป็นทิศทางเดียวกัน และมีขีดความสามารถในการวิจัยพัฒนาและผลิตวัคซีนที่สามารถรองรับความต้องการได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพื่อผลิตและพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านวัคซีนอย่างครบวงจรเพื่อรองรับความต้องการอย่างเพียงพอ พัฒนาและบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านวัคซีนของประเทศให้ครบถ้วนและได้มาตรฐานสากล เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถขององค์กรภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนให้มีศักยภาพและมีส่วนร่วมในการพัฒนางานด้านวัคซีนของประเทศได้อย่างเข้มแข็ง มีเอกภาพในการบริหารจัดการอย่างบูรณาการและมีประสิทธิภาพ

“รัฐบาลจะส่งเสริมให้คนไทยและผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยได้รับวัคซีนอย่างครอบคลุม เหมาะสม เป็นธรรมทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน จะส่งเสริมให้ประเทศไทยสามารถผลิตวัคซีนที่จำเป็นสำหรับใช้ป้องกันโรคที่เป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศ เพื่อทดแทนการนำเข้าและการส่งออกในระยะต่อไป รวมทั้งจะส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐานด้านวัคซีนของประเทศเพื่อรองรับความต้องการอย่างเพียงพอ ได้มาตรฐานสากล และจะส่งเสริมให้องค์กรภาคีเครือข่ายด้านวัคซีนมีความเข้มแข็ง เพื่อให้สามารถดำเนินการด้านวัคซีนได้อย่างครบวงจรและมีคุณภาพ” น.ส.ไตรศุลีกล่าว

ทั้งนี้ ร่างนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. 2563-2565 ประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1 พัฒนาระบบและบริหารจัดการงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคให้มีประสิทธิภาพทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน ยุทธศาสตร์ที่ 2 ส่งเสริม สนับสนุนการวิจัยพัฒนา และการผลิตวัคซีนรองรับความต้องการในการป้องกันโรคของประเทศ ยุทธศาสตร์ที่ 3 ส่งเสริม สนับสนุนอุตสาหกรรมวัคซีนภายในประเทศให้มีความเข้มแข็งและส่งออกได้ ยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนาศักยภาพบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐานด้านวัคซีนของประเทศให้รองรับภารกิจความมั่นคงด้านวัคซีนได้อย่างเหมาะสม และยุทธศาสตร์ที่ 5 เสริมสร้างขีดความสามารถขององค์กรภาคีเครือข่ายด้านวัคซีนของประเทศ โดยวงเงินงบประมาณที่ใช้ดำเนินการตามร่างนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ฯ รวม 11,078,946,553 บาท จะใช้สำหรับดำเนินโครงการ 67 โครงการ ซึ่งจะมีการประเมินผลโครงการ 3 ระยะ คือ ก่อนการปฏิบัติการหรือก่อนเริ่มโครงการ ระหว่างดำเนินการ และหลังสิ้นสุดแผนที่จะมีการสรุปผลการดำเนินงานภายหลังจากสิ้นสุดแผนรายงานต่อคณะรัฐมนตรีทุกปี


กำลังโหลดความคิดเห็น