"กมธ.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม วุฒิสภา" หนุนรัฐบาลอัดงบวิจัยให้มหาวิทยาลัย พร้อมแนะ "สถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ" ปรับหลักสูตรตอบโจทย์ประเทศ-ชุมชน มุ่งผลิตบัณฑิตระยะสั้นพัฒนาวิสาหกิจชุมชน-สมาร์ทฟาร์ม-เขตเศรษฐกิจพิเศษ
วันที่ 23 ก.พ. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กมธ.อว.) วุฒิสภา เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา กมธ.อว. ได้ประชุมหารือร่วมกับรัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้อง และเชิญผู้ทรงคุณวุฒิแขนงต่างๆมาให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง ตลอดทั้งการจัดสัมมนาระดมความคิดเห็น เพื่อช่วยสนับสนุน และพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การวิจัยและการสร้างสรรค์นวัตกรรม ให้มีความก้าวหน้าและพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันของประเทศให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
พล.อ.อ.ประจิน เปิดเผยว่า จากการร่วมลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นของผู้บริหารมหาวิทยาลัยในส่วนภูมิภาคทั้ง 5 แห่ง ได้รับทราบประเด็นที่จากภาคเอกชน, ภาคอุตสาหกรรม กลุ่มมหาวิทยาลัยซึ่งเห็นปัญหาการขาดแคลนบุคลากร การผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ ความสามารถ มีทักษะพร้อมรองรับกับการเติบโตกับอุตสาหกรรมใหม่ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ จึงเห็นควรเสนอแนะให้มหาวิทยาลัยมีการพัฒนาหลักสูตรโครงการพัฒนาทักษะระยะสั้น เพื่อพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถศักยภาพ (Upskill )ให้กับบัณฑิตและผู้ประกอบการรายใหม่พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายกลุ่มมหาวิทยาลัยในการสร้างหลักสูตรการศึกษาตามมาตรฐานเพื่อ รองรับกับเศษรฐกิจและอุตสาหกรรมในอนาคต
"การพัฒนาส่งเสริมงานวิจัยนวัตกรรมต้องเน้นสนับสนุนงานที่สามารถต่อยอดสร้างรายได้ทางธุรกิจและการพัฒนาดึงศักยภาพความโดดเด่นของวิสาหกิจชุมชน ภาคเอกชน ซึ่งงานของมหาวิทยาลัยยังขาดความหลากหลาย จึงควรกำหนดงานวิจัยและนวัตกรรม 3 ประเภท ได้แก่งานวิจัยที่ร่วมกับรัฐบาล งานวิจัยที่ร่วมกับมหาวิทยาลัย และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับชุมชน ภาคเอกชนในท้องถิ่น เพื่อตอบโจทย์การสร้างอาชีพสร้างรายได้ การยกระดับการบริหารงานวิจัยเชิงบูรณาการที่ตอบโจทย์ประเทศเน้นเรื่องเกษตร อาหาร เกษตรแปรรูป การสนับสนุนนวัตกรรม Smart Farm และการยกระดับอุตสาหกรรมการบริการและการท่องเที่ยว การพัฒนางานวิจัยกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดกลางขนาดใหญ่ ประเภทอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิตหุ่นยนต์และกลุ่มคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเพื่อตอบสนองแรงงานสมัยใหม่" ประธาน กมธ.อว. ระบุ
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวต่อไปว่า ในไตรมาสที่ 2-4 ของปีงบประมาณ 2563 กมธ.อว. จะเร่งดำเนินงานตามกรอบภารกิจที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะการรับฟังความคิดเห็นของมหาวิทยาลัย เพื่อใช้ประกอบแนวทางการยกร่างกฎระเบียบต่าง ๆ ให้เอื้อต่อการบริหารจัดการและส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย และการส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยมีอิสระในการบริหารจัดการเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา รวมถึงแก้ไขกฎหมายที่ไม่เอื้อต่อการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษาและการวิจัยในระดับอุดมศึกษา (International Higher Education Hub) นอกจากนั้น ควรประชาสัมพันธ์เพื่อทำความเข้าใจในกฎหมายหรือกฎระเบียบที่ได้ปรับแก้ไขแล้วให้ มหาวิทยาลัยมีความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน
นอกจากนี้จะได้มีการผลักดันการจัดสรรงบประมาณด้านการวิจัยของภาครัฐ ซึ่งรัฐควรจัดสรรงบประมาณสำหรับการวิจัยและนวัตกรรมให้มากพอและเพิ่มมากขึ้นเพื่อการพัฒนากำลังคน การวิจัยและนวัตกรรม ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานการวิจัย อันจะทำให้ประเทศไทยมความสามารถในการแข่งขันในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ และเป็นพลังในการพัฒนาประเทศตามแนวปฏิรูปและยุทธศาสตร์ชาติ โดยการจัดสรรงบประมาณเพื่อส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม โดยเน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ควบคู่ไปกับการพัฒนาและการใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัยและนวัตกรรมซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศและสร้างความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงช่วยให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น.