xs
xsm
sm
md
lg

ประโยชน์ทับซ้อน! “ปวิน-หมอเหรียญ” ตัดสิน “ส้มหวาน” ด้าน “แม่ยก ปชป.” จวกบางพรรคหนักกว่า “ทักษิณ”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ปวิน” ชี้ชัด พร้อมตัวอย่างเพียบ กรณี “ทอน” ให้กู้ “ส้มหวาน” 191.2 ล้าน ด้าน “แม่ยก ปชป.” เหน็บบางพรรคหนักกว่า “ทักษิณ” ตบท้าย “หมอเหรียญทอง” แจงยิบ “ผลเสีย” ใหญ่หลวง หากปล่อยให้พรรคการเมืองกู้เงินได้

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(21 ก.พ.63) เฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun ของ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการอิสระ ผู้ต้องหาหลบหนีคดี ม.112 โพสต์ข้อความ ระบุว่า

“...พ่อให้ลูกกู้เงินตั้งบริษัท แล้วพ่อทำงานในบริษัทด้วย มันคือผลประโยชน์ทับซ้อน

...ผัวให้เมียยืมเงินเปิดร้านทำผม แล้วผัวทำงานในร้านทำผมด้วย มันคือผลประโยชน์ทับซ้อน
...นักธุรกิจให้พรรคการเมืองกู้เงินตั้งพรรค แล้วตัวเองเป็นหัวหน้าพรรคด้วย มันคือผลประโยชน์ทับซ้อน

...ปวินกินผู้ชายเสร็จแล้ว จ้างผู้ชายมาเป็นเลขาส่วนตัว มันคือผลประโยชน์ทับซ้อน คือทั้งทับๆๆ ทั้งซ้อนๆๆ ว้ายยยยย

ทั้งนี้ โพสต์ของ “ปวิน” เกิดขึ้นก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสิน ยุบพรรค “ส้มหวาน” เพียงเล็กน้อยเท่านั้น อันสะท้อนให้เห็นว่า ความผิดเห็นได้ชัด แม้ไม่ใช่ศาลรัฐธรรมนูญ ก็ยังเชื่อว่า มีผลประโยชน์ทับซ้อนแน่นอน

ขณะที่เฟซบ๊ก Kanjanee Valyasevi ของ นางกาญจนี วัลยะเสวี หรือ “ติ๊งต่าง” เจ้าของฉายาไฮโซสปอร์ตคลับและแกนนำกลุ่มชาวไทยหัวใจรักสงบ “แม่ยกพรรคประชาธิปัตย์” ก็โพสต์เกี่ยวกับเรื่องเงินของพรรคการเมืองเช่นกัน ว่า

“1.พรรคการเมืองบางพรรคขายโต๊ะจีน ระดมทุนจากธุรกิจขนาดใหญ่, ภาครัฐ ทำได้ แต่พรรคอื่นถูกห้าม

2.พรรคการเมืองบางพรรคมีแต้มต่อตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งจากส.ว. 250 คน

3.ส.ส.บางคนถือหุ้นสื่อ ต้องถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ และปลดจากตำแหน่ง แต่อีกพรรคถืออิทธิพลเหนือสื่อ

4.สมัยก่อนการเสียบบัตรแทนกันจะทำให้กฎหมายเป็นโมฆะ - แต่ยุคนี้ การเสียบบัตรแทนกันถือเป็นเรื่องเล็กน้อย

5.ใครที่อยากแก้ไข รธน. จะถูกตราหน้าว่า "ชังชาติ" แต่คนที่ฉีก รธน. กลับถูกมองว่าเป็นคนดี เสียสละเพื่อแผ่นดิน

-- หนักกว่าสมัยทักษิณไหมนี่ ตอนนั้นเรายังเอาคนผิดเข้าคุกได้ ตอนนี้ทุกคนดีหมด ฮาๆๆๆๆ

โพสต์ของ “ติ๊งต่าง” ทำให้เห็นได้ชัดว่า พรรคประชาธิปัตย์ ชั่วโมงนี้ หาจุดยืนที่แท้จริงแทบไม่ได้ เพราะมีทั้งหนุนรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อต้านรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ และพรรคการเมืองที่หนุนพล.อ.ประยุทธ์ หลายคนต่างทยอยลาออกหนีไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ เพราะปัญหาภายในที่หลายคนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก รวมทั้ง พรรคก็ส่อว่า จะเป็นพรรคขนาดกลางลงมาหาเล็กแล้วด้วย

ส่วนถ้าอยากรู้ว่า ใครมีจุดยืนอย่างไร หาอ่านจากเฟซบุ๊ก เอาเองก็แล้วกัน

ภาพจากแฟ้ม
มาถึงคนสุดท้าย พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และผู้ก่อตั้งองค์กรเก็บขยะแผ่นดิน โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า

“คิดแบบวิญญูชนนะครับว่า ถ้าพรรคการเมืองสามารถกู้เงินจำนวนมากๆได้ โดยไม่ผิดกฎหมายแล้ว จะกลายเป็นบรรทัดฐานให้พรรคการเมืองต่างๆทำตามกันแล้ว ต่อไปจะกลายเป็น 'ธุรกิจการเมืองอย่างสมบูรณ์แบบ'

เมื่อพรรคการเมืองเป็นหนี้เงินกู้จำนวนมากๆแล้ว พรรคการเมืองจะต้องหารายได้จำนวนมากๆมาชำระคืนหนี้เงินกู้...ผลประโยชน์ของชาติและงบประมาณแผ่นดินจะเป็นแหล่งรายได้จำนวนมากๆที่พรรคการเมืองจะกอบโกยกันเพื่อนำมาชำระหนี้คืนด้วยการเอื้อประโยชน์เจ้าหนี้ซึ่งเป็นนายทุนเงินกู้

หากปล่อยให้พรรคการเมืองสามารถกู้เงินจำนวนมากๆได้ก็จะมีนายทุนจำนวนมากร่วมลงขันปล่อยกู้ให้พรรคการเมือง...ประเทศชาติ งบประมาณแผ่นดิน จะเป็นอย่างไร...ไม่ย่อยยับหรอกหรือ

ผมฟันธงเลยครับว่า พรรคการเมืองกู้เงินจำนวนมากๆ ผิดแน่นอน...อย่างน้อยที่สุดก็ผิดสำมัญสำนึกของวิญญูชน...

พรรคการเมืองต้องมีสามัญสำนึกของวิญญูชนครับ ...การพลิกแพลงของพรรคการเมืองโดยกรรมการบริหารพรรคเช่นนี้ เป็นการสร้างบรรทัดฐานบ่อนทำลายชาติ เป็นความผิดร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติครับ

นี่คือ ส่วนหนึ่งของทัศนะที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาลรัฐธรรมนูญแม้แต่น้อย และไม่ใช่นักกฎหมายทั้งสิ้น แต่สิ่งที่เขาเชื่อว่า “ผิด” คือ ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน ที่พรรคการเมืองและผู้สนับสนุน จะต้องรับฟัง ความเห็นต่างด้วย ไม่เช่นนั้นจะเรียก “ประชาธิปไตย” ได้อย่างไร ถ้าจะดึงดันว่า ตัวเองถูกฝ่ายเดียว ทำอะไรก็ไม่ผิด เพราะท่องคาถา “ประชาธิปไตย” ใครก็พูดได้ หรือว่าไม่จริง


กำลังโหลดความคิดเห็น