“ประยุทธ์” เปิดทำเนียบรับทูตเนปาล เชื่อความสัมพันธ์แน่นแฟ้นขึ้น สานต่อความร่วมมือทุกมิติ โดยเฉพาะการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยว เห็นพ้องความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
วันนี้ (19 ก.พ.) เวลา 14.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายคเณศ ประสาท ธกาล (H.E. Mr. Ganesh Prasad Dhakal) เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาลประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ สรุปสาระสำคัญดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีกับเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาลประจำประเทศไทยในโอกาสเข้ารับหน้าที่ พร้อมทั้งชื่นชมความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกว่า 61 ปี ระหว่างไทยกับเนปาล ซึ่งผูกพันกันด้วยศาสนาและวัฒนธรรมกว่า 2,000 ปี ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าเอกอัครราชทูตฯ จะมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ตลอดจนแสดงความขอบคุณรัฐบาลเนปาลที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นเมื่อครั้งเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอด BIMSTEC ครั้งที่ 4 ณ กรุงกาฐมาณฑุ เมื่อเดือนสิงหาคม 2561
เอกอัครราชทูตฯ ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่สละเวลาให้เข้าพบในวันนี้ ยืนยันพร้อมสานต่อความร่วมมือระหว่างไทยกับเนปาลให้มีความใกล้ชิดมากขึ้นในทุกมิติ โดยเฉพาะด้านการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยว พร้อมขอให้รัฐบาลไทยสนับสนุนภาคเอกชนให้เข้าไปลงทุนในเนปาลมากขึ้น โดยเฉพาะในสาขาการบริการและการท่องเที่ยว ซึ่งฝ่ายไทยมีความเชี่ยวชาญ นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ ยินดีที่นักท่องเที่ยวไทยเดินทางมายังเนปาลมากขึ้น พร้อมขอให้ไทยพิจารณาส่งเสริมสายการบินของไทยให้มีเที่ยวบินตรงมายังลุมพินีวัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ชาวไทยที่เดินทางไปแสวงบุญ โดยรัฐบาลเนปาลพร้อมให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องขยายโอกาสในการเพิ่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างกัน โดยทางด้านการค้า ไทยสนับสนุนให้เนปาลใช้ประโยชน์จากสิทธิพิเศษทางการค้า Duty Free, Quota Free (DFQF) ที่รัฐบาลไทยให้สิทธิแก่เนปาลเพื่อเพิ่มปริมาณการค้าและลดปัญหาความไม่สมดุลทางการค้าระหว่างกัน ทางด้านการลงทุน ทั้งสองหวังว่า ความสำเร็จในการร่วมลงทุนระหว่างภาคเอกชนไทยกับเนปาลที่ผ่านมา จะเป็นแรงจูงใจให้นักธุรกิจไทยสนใจเข้าไปลงทุนในเนปาลมากขึ้น นอกจากนี้ ไทยยินดีร่วมมือกับเนปาลในการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาในสาขาต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ร่วมกัน