“ประวิตร” เป็นประธานประชุม คกก.บริหารสถานการณ์ฉุกเฉินฯ มีมติขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและใช้กฎหมายพิเศษใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นครั้งที่ 59 เริ่มจาก 20 มี.ค.ถึง 19 มิ.ย. 63 เพื่อเฝ้าระวังเหตุการณ์ต่อเนื่อง แม้แน้วโน้มการก่อเหตุลดลง
วันนี้ (17 ก.พ.) พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งที่ 1/2563 ณ ห้องประชุมวิจิตรวาทการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทำเนียบรัฐบาล
คณะกรรมการฯ ได้รับทราบผลการปฏิบัติงาน และสถานการณ์การก่อการร้าย จากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ในห้วงที่ผ่านมา (20 ธ.ค. 2562 ถึง 10 ก.พ. 2563) โดยมีแนวโน้มการเกิดเหตุลดลง ประชาชนได้รับการดูแลความปลอดภัยจากหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) อย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง และการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่กำลังเจริญเติบโต จึงยังมีความจำเป็นที่จะต้องเฝ้าระวังเหตุการณ์อย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อให้เกิดความสงบสุขของพี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืนในพื้นที่ จชต. คณะกรรมการฯ จึงได้มีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง และใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่ 3 จชต.จากเดิมต่อไปอีก 3 เดือน (20 มี.ค. 2563 ถึง 19 มิ.ย. 2563) เป็นครั้งที่ 59 ตามข้อเสนอของ กอ.รมน.ภาค 4 สน. และเห็นชอบให้เพิ่มประสิทธิภาพด้านการสืบสวนสอบสวน คดีความมั่นคง โดยเร่งรัดสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)ในการควบคุมการลงทะเบียนการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งแบบเติมเงิน และแบบรายเดือน พร้อมส่งไปยังฐานข้อมูลให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (บช.ภ.9) เพื่อใช้ประโยชน์ในการควบคุมสถานการณ์ และดำเนินคดีให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นต่อไป
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตรได้สั่งกำชับ กอ.รมน.ภาค 4 สน.และหน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วยในพื้นที่ จชต.ต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นในการควบคุมสถานการณ์ และรักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อความปลอดภัยของประชาชน รองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ด้วยการประเมินสถานการณ์ในพื้นที่อย่างละเอียดรอบคอบ มีมาตรการเชิงรุกด้านการข่าว ประชาชนมีส่วนร่วม และการบังคับใช้กฎหมายที่เป็นธรรมอย่างจริงจัง ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรได้กล่าวชื่นชมพร้อมได้ให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ด้วยความทุ่มเท เสียสละ กล้าหาญ และภาคภูมิใจที่ได้ปฏิบัติภารกิจที่มีความสำคัญยิ่ง และขอให้มีความปลอดภัยทุกนาย
