กองอำนวยการน้ำฯ เห็นชอบแผนเร่งด่วนรับมือภัยแล้ง 63 “ประยุทธ์” วางโครงการแก้ระยะยาว ไม่ใช่เฉพาะสั้น ย้ำสงกรานต์มีน้ำเล่นเพียงพอ แต่ขอพอเพียง
วันนี้ (6 ก.พ.) เวลา 14.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมเกียรติ ประจำวงศ์ เลขาธิการสำนักทรัพยากรน้ำชาติแห่งชาติ (สทนช.)พร้อมด้วยนางนฤมล ภิญโญสินวัด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมเพื่อรับทราบนโยบายและรายงานผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำแล้งของหน่วยงาน ภายใต้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยนายสมเกียรติกล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบแผนเร่งด่วน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับกักเก็บน้ำปี 2563 ตามที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติรายงาน ทั้งในส่วนของน้ำอุปโภคบริโภค ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงอยู่ในพื้นที่การประปาภูมิภาค (กปภ.) 34 จังหวัด 68 สาขา และจังหวัดที่อยู่นอกเขตชลประทาน 47 จังหวัด ที่คาดการณ์ว่าในสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ ในบางพื้นที่น้ำอาจจะขาด ทาง กปภ.และการประปานครหลวงจึงได้วางมาตรการและปรับแผนตามที่ได้มีงบกลางสนับสนุนไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ นายกฯ สั่งการว่าไม่อยากเห็นโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลจัดสรร แก้ไขปัญหาในระยะสั้นเท่านั้น แต่อยากเห็นการแก้ไขปัญหาระยะยาว เช่น ภาคอีสานที่ติดริมน้ำโขงจะมีการเจรจาโดยตรงกับทางการจีน ได้หมายให้ รมว.ต่างประเทศไปดำเนินการพูดคุยให้มีการปล่อยน้ำแล้ว หากติดขัดอยู่ที่ประเทศลาวก็จะต้องเจรจาต่อไป ขณะที่ลุ่มน้ำชีบางส่วนเกิดอุทกภัยตอนปลายฤดูฝนที่แล้ว
นายสมเกียรติกล่าวต่อว่า นายกฯเป็นห่วงอยากให้มีการพัฒนาไม่อยากให้มีการเร่งระบายน้ำเร็วเกินไป ให้เร่งมีการพัฒนาพื้นที่แก้มลิงแหล่งกักเก็บน้ำ รวมไปถึงการผันน้ำจากลุ่มน้ำป่าสักลงสู่เขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา เช่นเดียวกับที่ภาคกลางพื้นที่สูงที่มีปัญหา คือ จ.กาญจนบุรี และสุพรรณบุรี ซึ่งมีการศึกษาเรื่องผันน้ำเข้ามาเติมและขุดเฉพาะบ่อบาดาล สำหรับพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มีการประเมินว่าน้ำอาจจะขาดแคลน จึงได้มีการประสานจังหวัดใกล้เคียงช่วยผันน้ำเข้ามา สำหรับการเตรียมการในช่วงฤดูฝน กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่าในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.จะมีฝนน้อย และในช่วง ก.ค.-ส.ค.จะมีน้ำมาก ขณะที่เดือนส.ค.-ก.ย.อาจจะมีพายุ1-2ลูก นายกฯมอบหมาย สทนช.รวบรวมโครงการที่มีความพร้อม โดยมีประมาณ 2,000-3,000 โครงการ เพื่อหาแหล่งเก็บน้ำภายในเดือน มิ.ย. ด้วยความไม่ประสาทขอให้เร่งดำเนินการ และมีโครงการจากชุมชนที่รออยู่และจะเสนอเข้ามาในวันที่ 11 ก.พ.นี้ เพื่อที่จะถ่ายโอนไปให้ท้องถิ่นในส่วนที่สามารถบริหารจัดการได้โดยไม่ผิดระเบียบและกฎหมาย ซึ่งคาดว่าโครงการต่างๆจะเริ่มคิกออฟได้ในสิ้นเดือน ก.พ.นี้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลสงกรานต์เรายังมีปริมาณน้ำเพียงพอในระดับหนึ่งให้ประชาชนสามารถใช้เล่นอย่างพอควร เพื่อให้ภาคส่วนอื่นมีน้ำสำหรับใช้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน
นางนฤมลกล่าวว่า นายกฯ เน้นย้ำเรื่องการจ้างงานเกษตรกรในพื้นที่บางส่วนที่ประสบภัยแล้ง ที่ไม่ได้ทำการเพาะปลูก เนื่องจากปริมาณน้ำไม่เพียงพอ จึงขอให้ช่วยดูแลเพื่อให้เกิดรายได้ และขอความร่วมมือประชาชนทุกภาคส่วนในการใช้น้ำอย่างประหยัดเพื่อให้เพียงพอกับทุกส่วน