xs
xsm
sm
md
lg

พณ.จ่อเคาะ 4 มาตรการ หลังให้หน้ากากอนามัย-เจลล้างมือ เป็นสินค้าควบคุม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ (แฟ้มภาพ)
รมว.พาณิชย์ เผยกรมการค้าภายในเตรียมออก 4 มาตรการหลังคลอดประกาศ หน้ากากอนามัย-เจลล้างมือ เป็นสินค้าควบคุม ยันเร่งกระจายให้ทั่วถึง เปิดสายรับร้องเรียนถ้าพบขายแพงเวอร์ ขีดเส้นใครส่งออกเกิน 500 ชิ้นต้องขออนุญาตก่อน

วันนี้ (4 ก.พ.) เวลา 15.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอให้หน้ากากอนามัย เจลทามือ และสปันบอนด์ที่เป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตหน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม ซึ่งขั้นตอนต่อไปคือตนได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเร่งดำเนินการเผยแพร่ประกาศดังกล่าวลงในราชกิจจานุเบกษาให้ได้ภายในวันนี้ (4 ก.พ.) จากนั้น ในวันที่ 5 ก.พ. กรมการค้าภายในจะสามารถออกมาตรการต่างๆ อย่างน้อย 4 เรื่อง คือ 1. มาตรการกำหนดให้ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ผู้นำเข้า และผู้ส่งออกสินค้าดังกล่าว ต้องแจ้งข้อมูลการผลิต การครอบครอง การจำหน่าย และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 2. มาตรการการกระจายสินค้าเพื่อไม่ให้กระจุกตัวที่ใดที่หนึ่ง 3. มาตรการด้านการส่งออกสินค้า ซึ่งในเบื้องต้นจะกำหนดว่าหากผู้ที่จะส่งออกสินค้าหน้ากากอนามัยหรือเจลทามือ เกิน 500 ชิ้นขึ้นไป จะต้องขออนุญาตส่งออกหรือเคลื่อนย้ายออกจากราชอาณาจักร 4. มาตรการกำหนดให้ต้องป้ายแสดงราคาจำหน่าย และต้องขายในราคาตรงกับป้ายราคา โดยระหว่างนี้กรมการค้าภายในได้ประสานงานกับผู้ผลิตและผู้จำหน่ายไปพลางก่อนแล้ว

สำหรับการร้องเรียนว่าหน้ากากอนามัยและเจลทามือขาดตลาดอย่างมากนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ตอนนี้มีการขาดแคลนสินค้าดังกล่าวเป็นจุดๆ บางพื้นที่มีจำหน่าย แต่บางพื้นที่ไม่มีจำหน่าย ดังนั้น พาณิชย์จังหวัดจะต้องรายงานข้อมูลเข้ามาที่ส่วนกลาง แล้วให้กรมการค้าภายในจะต้องเร่งบริหารการกระจายสินค้าดังกล่าวให้ทั่วถึง โดยกรมการค้าภายในต้องเชิญผู้ผลิตและผู้ขายส่งมาร่วมหารือถึงการกระจายสินค้าดังกล่าวให้ดีขึ้นโดยเร็ว ส่วนจะต้องถึงขั้นกำหนดว่าแต่ละคนสามารถซื้อได้กี่ชิ้นนั้น อยู่ที่การประเมินของกรมการค้าภายใน ทั้งนี้ ตนเห็นใจประชาชนที่มีความกังวลเรื่องสุขภาพ จึงทำให้มีบางคนต้องการซื้อสินค้าเป็นจำนวนเผื่อไว้ ถ้าทุกคนคิดตรงกันอย่างนั้นก็อาจทำให้สินค้าขาดตลาด อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายในพยายามกระจายสินค้าให้ทั่วถึงมากที่สุด ขณะเดียวกัน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศยังออกสุ่มตรวจอย่างต่อเนื่องแล้วนำข้อมูลรายงานวอร์รูมที่มีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน

เมื่อถามว่ากรณีที่มีบางคนซื้อสินค้าดังกล่าวไปกักตุนไว้เพื่อนำไปจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ และตั้งราคาแพงด้วย นายจุรินทร์กล่าวว่า หลังจากทางกระทรวงฯออกประกาศเป็นสินค้าควบคุมแล้ว กรมการค้าภายในจะบริหารจัดการตรงนี้ได้ซึ่งรวมถึงการลงโทษตามกฎหมายต่อผู้ที่ฝ่าฝืน ดังนั้น ถ้าใครพบว่ามีการจำหน่ายสินค้าดังกล่าวตามร้านค้าต่างๆ หรือในช่องทางค้าขายออนไลน์ในราคาสูง สามารถโทรศัพท์แจ้งรายละเอียดต่อกระทรวงพาณิชย์ได้ทันทีที่หมายเลขโทรศัพท์ 1569 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่รับสายอยู่ตลอด หรือสามารถบันทึกเสียงในระบบฝากข้อความได้เช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่จะนำข้อมูลร้องเรียนจากส่วนนี้ส่งให้วอร์รูมของกระทรวงพาณิชย์รับไปเร่งดำเนินการแก้ไข ขณะเดียวกันเราได้ส่งเจ้าหน้าที่อีกส่วนไปลงพื้นที่จริงเพื่อนำข้อมูลที่ได้พบแจ้งต่อวอร์รูมนี้ด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น