“ศรีสุวรรณ” นำอดีตกรรมการบริหารพรรคไทรักธรรม ร้อง กกต.สอบ “พีระวิทย์” หัวหน้าพรรค ไม่ได้จัดประชุมใหญ่พรรคคัดผู้สมัคร ส.ส.เมื่อ 24 ม.ค. 62 แต่รายงานเท็จต่อ กกต.นำภาพประชุมตั้งสาขาพรรคไปแอบอ้าง
วันนี้ (3 ก.พ.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นำนายจตุรวิทย์ กาละมิตร์ อดีตเลขาธิการพรรค กรรมการบริหาร และสมาชิกพรรคไทรักธรรม เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต. หลังพบว่า การจัดทำรายงานเพื่อเสนอต่อ กกต.ของนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม ที่อ้างว่ามีการจัดประชุมใหญ่พรรคครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 62 ณ วัดตาปะขาวหาย ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เพื่อรับรองผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคจำนวน 350 คน (สมัครจริง 298 คน) ในการส่งสมัครรับเลือกตั้งในระหว่างวันที่ 4-8 ก.พ. 62 เป็นการจัดทำรายงานอันเป็นเท็จ เพราะไม่ได้มีการจัดประชุมใหญ่จริง แต่ได้นำภาพถ่ายการประชุมสมาชิกในการจัดตั้งสาขาพรรคที่จังหวัดพิษณุโลกมาแอบอ้าง ว่าเป็นการประจัดประชุมใหญ่ของพรรค ซึ่งเรื่องนี้ทางหัวหน้าพรรคได้ทำเอกสารรายงานกิจกรรมของพรรครายงานให้ กกต.ได้รับทราบตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง แต่ปรากฏว่ากรรมการและสมาชิกพรรคได้มาร้อง กกต.แล้ว ว่าการจัดทำรายงานดังกล่าวเป็นเท็จ และ กกต.โดย พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ก็ได้มีเอกสารแจ้ง เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 62 ให้พรรคมาดำเนินการจัดประชุมใหม่ เพื่อแก้ไขการรับรองสมาชิกและผู้จะลงสมัคร ส.ส.ของพรรค เพื่อเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง แต่ปรากฏว่าพรรคไม่ได้จัดการประชุมใหญ่ตามที่เลขาธิการ กกต.ได้แจ้งไป แต่กลับมาจัดทำเอกสารขึ้นใหม่ เอาภาพการประชุมสาขาพรรคที่พิษณุโลก และรูปที่ถ่ายกันเองในที่ทำการพรรคที่ กทม. ไปแสดงต่อ กกต. ถือได้ว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหัวหน้าพรรคไทรักธรรมต้องรับผิดชอบตาม มาตรา 137 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง และอาจมีความผิดตาม มาตรา 162 ของประมวลกฎหมายอาญาด้วย
“เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะการรับรองสมาชิกและรับรองบุคคลไปสมัคร ส.ส. ต้องผ่านที่ประชุมใหญ่ เมื่อการดำเนินการไม่เป็นจริง มีหลักฐานจากอดีตเลขาธิการพรรคและสมาชิกพรรคที่รับไม่ได้ จึงได้ลาออก ไม่ไปร่วมกิจกรรมของพรรค จึงมาร้องเพื่อให้ กกต.ตรวจสอบ เพื่อลงโทษต่อหัวหน้าพรรคที่แสดงเอกสารที่เป็นเท็จต่อ กกต. ถ้าเรื่องนี้เป็นจริงก็จะทำให้ตำแหน่ง ส.ส.ของหัวหน้าพรรค ที่เพิ่งเข้าไปเป็น ส.ส.ในสภาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลุดจากตำแหน่งนี้ไปด้วยโดยปริยาย”
นายจตุรวิทย์ยังกล่าวว่า ที่เกิดเหตุการณ์จัดฉาก กรรมการส่วนใหญ่ไม่รู้ และไม่เห็นรายงานการประชุม แต่การประชุมสาขาที่พิษณุโลกจัดจริง นอกจากนี้สมาชิกพรรคที่มายื่นเรื่องยังเปิดเผยว่าหัวหน้าพรรค ได้หลอกให้ไปจัดตั้งสาขาพรรค โดยให้สมาชิกพรรคดำเนินการ แต่เมื่อพรรคได้รับเงินกองทุนพรรคการเมืองแล้ว กลับไม่ดำเนินคืนเงินให้สมาชิกพรรค