ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายกฟ้อง ผอ.ร.ร.สวนกุหลาบวิทยาลัย ปฏิเสธไม่รับสมัครนักเรียนเข้าศึกษาต่อในระดับชั้น ม.1 ปีการศึกษา 62 ประเภทในเขตพื้นที่บริการ เหตุ นร.ผู้ฟ้องยังไม่เสียหาย-ไม่ทำตามขั้นตอน
วันนี้ (30 ม.ค.) ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายกฟ้องใน 5 คดีที่ ด.ช.ภูมิวิชญ์ ด.ช.ภูวิริศย์ ณัฎฐวณิช ด.ช.ปฐมพร วงศ์ศิริปรีดา ด.ช.พีรวัส วีระวิริยะทรัพย์ ด.ช.ปิยณัฐ หรือศุภปรัชญ์กรณ์ โอวานนทชัย ด.ช.วรภาส โอภาสสุวรรณหรือสมัยเทอดศักดิ์ และมีคำสั่งไม่รับคำฟ้อง ด.ช.ณัฐนนท์ อาชาชาญ ไว้พิจารณาในคดีที่บุคคลทั้งหมด ฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งผู้อำนวยการโรงเรียนสวนกุหลาบ ที่ปฏิเสธไม่รับสมัครผู้ฟ้องคดีเข้าศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ประเภทพื้นที่บริการ ปีการศึกษา 2562 โดยในคดีที่ ด.ช.ภูมิวิชญ์ และ ด.ช.ภูวิริศย์ ณัฎฐวณิช ด.ช.ปฐมพร วงศ์ศิริปรีดา ด.ช.พีรวัส วีระวิริยะทรัพย์ ฟ้องเป็นกรณีที่ผู้ฟ้องคดีฟ้องก่อนวันที่ 29 มี.ค. 62 ที่ ผอ.ร.ร.สวนกุหลาบจะมีประกาศฯ ว่าผู้ฟ้องคดีไม่มีสิทธิสมัครเข้าเรียนในประเภทเขตพื้นที่บริการ ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า กระบวนการในการพิสูจน์สิทธิของนักเรียนในเขตพื้นที่บริการว่าเป็นนักเรียนที่มีคุณสมบัติสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ประเภทนักเรียนเขตพื้นที่บริการ ปีการศึกษา 2562 ของคณะกรรมการตรวจสอบและพิสูจน์สิทธิเพื่อการสมัครเป็นนักเรียน ในเขตพื้นที่บริการ ปีการศึกษา 2562 ตามคำสั่งโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เป็นเพียงขั้นตอนการพิจารณาทางปกครอง ยังไม่มีผลเป็นคำสั่งทางปกครองที่กระทบต่อสถานภาพสิทธิหรือหน้าที่ของผู้ฟ้องคดี แม้ต่อมา ผอ.ร.ร.สวนกุหลาบได้มีประกาศโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยปฏิเสธไม่รับสมัครโดยไม่มีชื่อผู้ฟ้องคดีอยู่ในบัญชีรายชื่อนักเรียนที่มีสิทธิสอบเข้าเรียนต่อระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ประเภทในเขตพื้นที่บริการ ท้ายประกาศดังกล่าวซึ่งเป็นคำสั่งทางปกครอง แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ภายหลังจากผู้ฟ้องคดีได้รู้ถึงมติของคณะกรรมการตรวจสอบและพิสูจน์สิทธิ์เพื่อการสมัครเป็นนักเรียนในเขตพื้นที่บริการ ปีการศึกษา 2562 ก็นำคดีมาฟ้อง โดยไม่รอให้ ผอ.ร.ร.สวนกุหลาบมีประกาศโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย จึงถือว่าผู้ฟ้องคดียังไม่เป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายที่มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองตามมาตรา 42 วรรคหนึ่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542
ส่วนคดีที่ ด.ช.ปิยณัฐ หรือศุภปรัชญ์กรณ์ โอวานนทชัย ด.ช.วรภาส โอภาสสุวรรณหรือสมัยเทอดศักดิ์ กรณีที่ผู้ฟ้องคดีฟ้องภายหลังจาก ผอ.ร.ร.สวนกุหลาบมีประกาศฯ ว่าผู้ฟ้องคดีไม่มีสิทธิสมัครเข้าเรียนในประเภทเขตพื้นที่บริการแล้วหรือฟ้องก่อนแต่มีการแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องภายหลังจากมีประกาศดังกล่าวแล้ว ถือว่าผู้ฟ้องคดีประสงค์ฟ้องเพิกถอนประกาศของ ผอ.ร.ร.สวนกุหลาบ ที่ไม่ให้ผู้ฟ้องคดีมีสิทธิสมัครเข้าเรียนในประเภทเขตพื้นที่บริการด้วย ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่ากระบวนการในการพิสูจน์สิทธิของนักเรียนในเขตพื้นที่บริการ ว่าเป็นนักเรียนที่มีคุณสมบัติสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ประเภทนักเรียนเขตพื้นที่บริการ ปีการศึกษา 2562 ของคณะกรรมการตรวจสอบและพิสูจน์สิทธิเพื่อการสมัครเป็นนักเรียนในเขตพื้นที่บริการ ปีการศึกษา 2562 ตามคำสั่งโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยเป็นเพียงขั้นตอนการพิจารณาทางปกครอง ยังไม่มีผลเป็นคำสั่งทางปกครองที่กระทบต่อสถานภาพสิทธิหรือหน้าที่ของผู้ฟ้องคดี ต่อมาเมื่อ ผอ.ร.ร.สวนกุหลาบได้มีประกาศโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ปฏิเสธไม่รับสมัครโดยไม่มีชื่อผู้ฟ้องคดีอยู่ในบัญชีรายชื่อนักเรียนที่มีสิทธิสอบเข้าเรียนต่อระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ประเภทในเขตพื้นที่บริการ ท้ายประกาศดังกล่าว อันเป็นคำสั่งทางปกครอง หากผู้ฟ้องคดีไม่พอใจในคำสั่งทางปกครองตามประกาศดังกล่าวของผู้ถูกฟ้องคดี ผู้ฟ้องคดีจะต้องใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองดังกล่าวก่อนนำคดีมาฟ้องต่อศาล แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าภายหลังจากผู้ฟ้องคดีได้รู้ถึงมติของคณะกรรมการตรวจสอบและพิสูจน์สิทธิ์เพื่อการสมัครเป็นนักเรียนในเขตพื้นที่บริการ ปีการศึกษา 2562 ก็นำคดีมาฟ้องโดยยังมิได้อุทธรณ์คำสั่งทางปกครองตามประกาศโรงเรียนสวนกุหลาบดังกล่าว อันเป็นการไม่ดำเนินการตามขั้นตอนหรือวิธีการสำหรับการแก้ไขความเดือดร้อนหรือเสียหายในเรื่องดังกล่าวก่อนนำคดีมาฟ้องต่อศาลปกครอง ผู้ฟ้องคดีจึงยังไม่อาจใช้สิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองตามมาตรา 42 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 จึงพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง เป็นยกฟ้อง
สำหรับคดีที่ ด.ช.ณัฐนนท์ อาชาชาญ ฟ้องขอให้โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยรับผู้ฟ้องคดีเข้าเรียนในฐานะที่ควรได้รับสิทธิสมัครแบบพื้นที่บริการของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ซึ่งศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า แม้ตามคำขอท้ายฟ้อง ผู้ฟ้องคดีจะมิได้ระบุขอให้ศาลเพิกถอนประกาศโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยที่ไม่มีชื่อผู้ฟ้องคดีเป็นนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกเข้าเรียนต่อระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ประเภทในเขตพื้นที่บริการ แต่ผู้ฟ้องคดีได้อ้างและแนบประกาศดังกล่าวมาท้ายคำฟ้อง จึงต้องถือว่าผู้ฟ้องคดีมีความประสงค์ฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนประกาศโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยที่ไม่มีชื่อผู้ฟ้องคดีเป็นนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกเข้าเรียนต่อระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2561 ประเภท พื้นที่บริการ อันเป็นคดีพิพาทตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (1) แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 โดยประกาศโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยที่ไม่มีชื่อผู้ฟ้องคดีเป็นนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกเข้าเรียนต่อระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ประเภทในเขตพื้นที่บริการ เป็นคำสั่งทางปกครอง หากผู้ฟ้องคดีไม่พอใจคำสั่งดังกล่าว ผู้ฟ้องคดีจะต้องใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ตนได้รับแจ้งคำสั่งดังกล่าวตามมาตรา 44 วรรคหนึ่ง พ.ร.บ.ราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 การที่ผู้ฟ้องคดีนำคดีมาฟ้องต่อศาลปกครองกลางโดยยังมิได้อุทธรณ์คำสั่งทางปกครองดังกล่าวก่อน ถือเป็นการไม่ดำเนินการตามขั้นตอนและวิธีการสำหรับการแก้ไขความเดือดร้อนหรือเสียหายก่อนนำคดีมาฟ้องต่อศาล ผู้ฟ้องคดีจึงไม่มีสิทธิฟ้องคดีตามมาตรา 42 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 จึงมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองกลางที่ไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา