โฆษกปชป. แนะสังคมแยกกรณีกดบัตรแทน ความผิดส.ส.และความสำคัญงบฯ ควรหนุนให้มีการตรวจสอบอย่ามองเรื่องส่วนตัว ป้อง "นิพิฏฐ์" ไม่ได้มุ่งล้มกม. ย้ำต้องยึดซื่อสัตย์สุจริต
วันนี้ (26ม.ค.) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการกดบัตรแทนกันของ ส.ส.ว่า เรื่องดังกล่าวสังคมต้องแยกออกจากกันก่อนระหว่างการกระทำความผิดของ ส.ส. กับความสำคัญของงบประมาณแผ่นดิน
1.การกระทำของ ส.ส.ที่ไม่ซื่อสัตย์ สุจริตต่อการทำหน้าที่ การกดบัตรแทนกันเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏชัด ก็ต้องว่ากันตามกระบวนการของการตรวจสอบถ่วงดุล นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ตรวจสอบพบ ตัวบุคคลที่จะถูกตั้งต้นตรวจสอบก็คือตัว ส.ส.คนดังกล่าว ไม่ว่า ส.ส.คนนั้นจะอยู่พรรคการเมืองใด หลักการก็ต้องถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ถ้าเกิดขึ้นกับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องยึดหลักเดียวกันและถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเช่นกัน เพราะพรรคฯ ได้ต่อสู้กับเรื่องนี้มาโดยตลอด เรื่องกดบัตรแทนกันของ ส.ส.เป็นเรื่องของส่วนรวมที่ทุกคนต้องช่วยกันขจัดสิ่งเหล่านี้ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดความเสียหายตามมา จริงอยู่หากจะกล่าวว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของผู้กระทำผิด แต่ถ้าสังคมจะถือว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัวของผู้ที่ตรวจสอบด้วยนั้นก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่ต้องสนับสนุนให้มีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้ถึงที่สุด
2.เมื่อการกระทำผิดของ ส.ส.ในการกดบัตรแทนกัน มีผลกระทบต่อ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2563 ก็ต้องหาทางแก้ปัญหา นายนิพิฏฐ์ ไม่ได้มีเจตนาตั้งต้นว่าต้องล้มงบประมาณของรัฐบาล อีกทั้งยังเสนอแนวทางแก้ปัญหาไว้ชัดตั้งแต่วันที่ออกมาแถลงข่าว ทุกคนทุกฝ่ายก็พยายามหาทางกันเพื่อแก้ปัญหาให้ พ.ร.บ.งบประมาณเดินหน้าไปได้ ดังนั้นจึงไม่อยากให้มีคำถามว่านายนิพิฏฐ์ทำไปทำไม แต่ควรจะถาม ส.ส.คนที่ทำผิดว่าทำไปทำไม ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้กลับหัวกลับหางหมด ดังนั้นจึงต้องรอผลการตรวจสอบของศาลรัฐธรรมนูญเสียก่อน
"แม้การแบ่งข้างกันในทางการเมืองจะเป็นเรื่องปกติ ที่มีฝ่ายค้าน มีฝ่ายรัฐบาล แต่หลักการความถูกต้อง ความซื่อสัตย์ สุจริต คือสิ่งสำคัญที่ทุกฝ่ายต้องตระหนักด้วยเช่นกัน "