เลขาสภาฯ แจงเกิดปัญหา ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน เพราะอดีต ส.ส.ปชป.ร้องเรียนเรื่องงบฯ อิเล็กทรอนิกส์สภาใหม่ จนถูกตัดงบฯ ซื้อเครื่องสแกนนิ้วมือ ต้องใช้เครื่องเสียบบัตรแทน ขณะที่ห้องประชุม ส.ส.ยังไม่พร้อม ต้องใช้ห้องประชุม ส.ว.ที่มีเครื่องเสียบบัตรไม่พอ
วันนี้ (23 ม.ค.) นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงปัญหาการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกันของ ส.ส.ในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ว่ารู้สึกเสียดายที่ก่อนหน้านี้รัฐสภาแห่งใหม่ถูกออกแบบสำหรับแก้ไขปัญหาการกดบัตรแทนกัน โดยตั้งใจจะใช้เครื่องลงคะแนนแบบสแกนลายนิ้วมือแทนการเสียบบัตรแบบเดิมซึ่งไม่สามารถสแกนลายนิ้วมือแทนกันได้ แต่ปรากฏว่าในปี 2560-2561 เมื่อถึงเวลาต้องตั้งงบประมาณสำหรับจัดซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รัฐบาลกลับตัดลดงบประมาณจากที่เสนอขอไป 8 พันล้านบาท เหลือเพียง 3 พันล้านบาท จึงจำเป็นต้องตัดลดงบประมาณในการจัดซื้อเครื่องดังกล่าว ประกอบกับมีอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ไปร้องเรียนถึงการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าวทำให้สภาฯ ต้องตัดงบประมาณส่วนนี้ออกไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับปัญหาการเสียบบัตรแทนกันในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2563 ขณะนี้พบว่าเกิดขึ้นใน 3 กรณี คือ 1. มี ส.ส.บางคนเสียบบัตรค้างไว้และมีคนมากดลงมติแทน 2. มี ส.ส.บางคนเบิกบัตรสำรองไปให้คนอื่นมาเสียบบัตรลงมติแทนทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้เข้าร่วมการประชุม และ 3. มีการเสียบบัตรแทนเนื่องจากเครื่องลงคะแนนไม่เพียงพอ กรณีนี้เกิดจากปัจจุบัน ส.ส.ใช้ห้องประชุมของ ส.ว.ทำให้เครื่องลงคะแนนของสมาชิก มีเพียง 318 เครื่องไม่ถึง 498 คน ตามจำนวน ส.ส.ปัจจุบัน หรือขาดไป 180 เครื่อง ทำให้ ส.ส.ต้องใช้เครื่องในการลงคะแนนซ้ำกัน