รองหน.ปชป. ระบุสาวไส้ "ฉลอง" จากข้อมูลชาวบ้าน ชี้เสียบบัตรแทนผิดอาญาหรือไม่ ต้องดูรู้เห็นหรือไม่ ต้องไปสู้ในชั้นศาล
วันนี้ (21ม.ค.) เมื่อเวลา 13.20 น. นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพิ่มเติมว่า ข้อมูลที่ได้เป็นเรื่องที่ชาวบ้านในพื้นที่ส่งมาให้ และฝากให้ตน ขอให้ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำหน้าที่ของส.ส.ให้เป็นปากเป็นเสียงกับชาวบ้านเพราะวันที่เขาเดินทางไปจีน ยังมีการประชุมพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2563 จนถึงช่วงเย็นเกือบค่ำของวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมาวันนี้ตนไม่อยากพูดอะไรมากเพราะจะเบียดพื้นที่ข่าวของการประชุม ครม. สัญจรที่จ. นราธวาส ขอเอาเป็นว่า ตนยังมีข้อมูลในเรื่องนี้อีก แต่ขอให้นายศุภชัยที่บอกสื่อว่าตนกัดไม่ปล่อยนั้น ไปตรวจสอบดูว่า บุคคลที่ตนระบุถึงได้อยู่โหวตและอยู่ร่วมประชุมสภาฯในนัดพิจารณาร่างงบฯปี63 จริงหรือไม่ แล้วค่อยมาว่ากัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีของนายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง เขต2 พรรคภูมิใจไทย ที่เจ้าตัวออกมายอมรับผ่านสื่อแล้วว่า เขาขาดการประชุมสภาฯจริง โดยเสียบบัตรประจำตัวส.ส.ทิ้งไว้ที่เครื่องลงคะแนน นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องแยกเป็นสองส่วนคือ 1. กรณีความไม่สมบูรณ์ของร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ตั้งแต่มาตรา 31 ที่มีการเสียบบัตรเพื่อโหวตลงคะแนนในรายมาตราไปจนถึงปิดการประชุมในวาระที่3 ถ้ามีคนไปอยู่ร้องศาลรัฐธรรมนูญก็อาจจะขัดรัฐธรรมนูญตามแนวทางคำวินิฉัยคดีที่3-4/2557ของศาลรัฐธรรมนูญในคดีร่างพ.ร.บ.เงินกู้ 2ล้านล้านบาท 2. นายฉลองจะมีความผิดทางอาญาหรือไม่นั้น ต้อง ดูว่าเจ้าตัวรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ ในการให้ผู้อื่นเสียบบัตรลงคะแนนแทน
เมื่อถามย้ำว่า นายฉลองอ้างว่าเสียบบัตรคาทิ้งไว้ที่เครื่องลงคะแนน นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ก็ต้องดูว่าเมื่อเสียบบัตรคาไว้ตามปกติเจ้าหน้าที่สภาฯจะเก็บบัตรทั้งหมดที่เสียบคาไว้หลังจากปิดการประชุมในแต่ละวัน เพื่อรีเซ็ตเครื่องใหม่สำหรับการประชุมเช้าวันต่อไป แต่ในการประชุมสภาฯวันที่ 11 ม.ค.ใครเอาบัตรส.ส.ของนายฉลองไปเสียบและกดโหวตผ่านร่างกฎหมายงบฯให้นายฉลอง เป็นเรื่องที่ทางสภาฯต้องตรวจสอบ ทั้งนี้ ส่วนตัวเห็นว่า โดยหลักแล้ว การที่ส.ส.จะเอาบัตรประจำตัวของส.ส.คนอื่น ที่ไม่ใช่ของตัวเองกลับไปบ้าน และเช้าวันรุ่งขึ้น ก็นำบัตรประจำตัวของส.ส.คนอื่นมาเสียบที่เครื่องบะคะแนนเพื่อกดโหวตในการประชุมสภาฯผ่านร่างกฎหมายสำคัญ โดยที่เจ้าของบัตรตัวจริงไม่รู้เรื่องนั้น เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก เรื่องนี้ก็ให้ไปสู้กันในชั้นศาลและดูว่า ศาลจะเชื่อหรือไม่ และจะพิจารณาตัดสินอย่างไร