ข่าวปนคน คนปนข่าว
** สงสัยจะงานเข้าไม่พอ! ตั้ง“เอ๋ ปารีณา”เป็นคณะกมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ หาเรื่องล่อเป้าเละ ! แถมจุดชนวน “สิระ-เสรีพิศุทธ์”เปิดวอร์ท้าทายกันดุเดือด
“เอ๋”ปารีณา ไกรคุปต์ เงียบหายจากกระแสสื่อสังคมในโลกออนไลน์ไปสักพักใหญ่ๆ ตั้งแต่มีประเด็นฟาร์มไก่รุกป่า วันนี้กลับมาร้อนฉ่าในโซเชียลฯ อีกครั้ง...
โดยหยิบกรณีที่ "ปารีณา ไกรคุปต์" ถูกแต่งตั้งจากรัฐสภา ให้เข้าไปเป็น คณะกมธ.การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ซึ่งคณะกมธ.ชุดนี้ นอกจากปารีณาแล้ว ยังมีดาวดังไม่แพ้กัน เช่น "สิระ เจนจาคะ" และ "พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส" รวมอยู่ด้วย
ตามสไตล์ของประชาธิปไตยแบบไทยก็จัดสรรปันตำแหน่งให้มีที่มีทางกันไป ในคณะกมธ. ใครเป็นใครบ้าง หน้าตาเป็นแบบนี้ "พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ "จากพรรคเสรีรวมไทย นั่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการ รองประธานคณะกรรมาธิการ 3 คน ได้แก่ "สุทา ประทีป ณ ถลาง" พรรคพลังประชารัฐ "นิรันดร์ นาเมืองรักษ์" พรรคเพื่อไทย "จารึก ศรีอ่อน" พรรคพลังท้องถิ่นไท "ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ" พรรคเพื่อไทย เป็นเลขานุการคณะกรรมาธิการ ขณะที่โฆษกคณะกรรมาธิการ 2 คน "ธีรัจชัย พันธุมาศ" พรรคอนาคตใหม่ และ "อาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ" พรรคภูมิใจไทย
ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ "วิทยา ทรงคำ" พรรคเพื่อไทย และ "นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ" พรรคเพื่อไทย
กรรมาธิการมี"จุลพันธ์ โนนศรีชัย" พรรคอนาคตใหม่ "ภานุ ศรีบุศยกาญจน์" พรรคประชาธิปัตย์ "รังสิกร ทิมาตฤกะ"พรรคภูมิใจไทย "ปารีณา ไกรคุปต์" พรรคพลังประชารัฐ "สิระ เจนจาคะ" พรรคพลังประชารัฐ และ "ไพบูลย์ นิติตะวัน" พรรคพลังประชารัฐ
ที่คนเขาวิจารณ์กันเละเทะ เพราะ จริงๆ แล้ว คณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ มีหน้าที่และอำนาจกระทำกิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวกับกระบวนการและมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ โดยดูจากรายชื่อก็มีเสียงร้อง “ยี้”กันสนั่น ขัดกับชื่อคณะกรรมาธิการ “การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ”เสียนี่กระไร
บางคนร้อง โอ้ววว... สอบตัวเองก่อนดีมั้ย โดยเฉพาะกรณีของ“เอ๋”ปารีณา ที่มีชนักปมรุกป่าตามหลอนสังคมอยู่ ...ถามจริงๆ ที่ถูกเลือกเข้ามาโดยรัฐสภา ควรโดนสวดไปด้วยมั้ย
และแล้วก็เป็นไปอย่างที่คาด การที่คณะกมธ.ชุดนี้มี "ปารีณา ไกรคุปต์- สิระ เจนจาคะ" ซึ่งเป็นคู่ปรับของ "พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส" ได้เข้าร่วม ทำให้อุณหภูมิทะลักจุดเดือดในการประชุมเมื่อวานนี้ (16ม.ค.) จนคลิปปะทะคารมกันของ ปารีณา - สิระ กับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นคลิปฮอตในโซเชียลฯ
ที่ประชุม "พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ " โมโห และหมดความอดทน หลุดว่า"ปารีณา" ที่ทักท้วงประเด็นการประชุมว่า "อย่ามาเสือกพูดจาแบบนี้กับผม" ทำให้ ปารีณาโต้ตอบว่า “อย่ามาพูดจาต่ำๆ แบบนี้กับดิฉัน” ขณะที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ สวนมาอีก “ก็คุณมันต่ำ”...จากนั้นก็วงแตก
ต่อมาก็ถึงคิว "สิระ" ต่อว่า "พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์" ท่านประธานฯ ที่ใช้คำว่า “ส.”ในเกือกกับ “ปารีณา”ได้อย่างไร ปารีณา เป็นผู้หญิง ให้ถอนคำพูด โดยสิระร้องหาความเป็นสุภาพบุรุษจากผู้เฒ่าเลยเถิดไปถึงฉายา"วีรบุรุษนาแก" ได้มาอย่างไร ด่าว่าผู้หญิงอย่างงี้ โดยพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ท้าทายให้พูดไป จะขอเล่นงานตามกฎหมายทีหลังแล้วเดินจากไป...
ท่านผู้ชมทั้งหลายก็ได้แต่ปลงสังเวช ร้องเฮ้อออ...เป็นทิวแถว การเมืองในแบบฉบับน้ำเน่าขนานแท้ แวะเวียนมาให้ชมกันอีกละ
นี่สงสัยจะงานเข้ากันไม่พอ เลยหาเรื่องล่อTeenซะงั้น .
** "เด็กพปชร."ไอเดียกระฉูด เสนอสร้างสะพาน "จันทร์โอชา" เชื่อมเกาะสมุย.. "ลุงตู่" เลยโดนถล่มแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว เล่นเอาโฆษกรัฐบาลต้องรีบออกมาแก้ข่าว...ก็เล่นเชลียร์แบบไม่ดูกาลเทศะ อย่างนี้ มันก็เหมือนจับมาล่อเป้าชัดๆ
โซเชียลฯร้อนฉ่า!! กับข่าวสร้างสะพาน "จันทร์โอชา" เชื่อมเกาะสมุย เห็นแวบแรกนึกว่าเป็น"เฟกนิวส์" ล่อเป้าให้คนมาถล่มลุงตู่ แต่พอตรวจถึงที่มาที่ไปก็ปรากฏว่า เป็นไอเดียของเด็กพปชร. "สายัณห์ ยุติธรรม" ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ได้หารือในที่ประชุมสภาฯไปยังรมว.คมนาคม ถึงปัญหาของคนในพื้นที่ เมื่อวันก่อน
"ส.ส.สายัณห์"บอกว่าเห็นความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องการไปท่องเที่ยว ไปพักผ่อนที่เกาะสมุย โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเทศกาล ทั้งรถ ทั้งคน ต้องการเดินทางไปเกาะสมุยแต่ไปไม่ได้ การจราจรติดขัด เพราะท่าเรือมีเพียงสองแห่ง จึงเสนอให้สร้างสะพานจาก อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ไป อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มีการนำภาพกราฟิกมาให้ดู พร้อมตั้งชื่อสะพานเสร็จสรรพว่า "สะพานจันทร์โอชา" เพื่อเป็นเกียรติประวัติให้กับ "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา...โดยยกเหตุผลประกอบว่า ในอดีต มีอดีตนายกฯ อย่างน้อย 2 คน คือ นายพจน์ สารสิน เป็นนายกฯไม่กี่วันก็สร้างสะพาน“สารสิน”จากพังงาไปภูเก็ต และ อดีตนายกฯ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ก็สร้างสะพาน"ติณสูลานนท์"
แน่นอนว่า ในโซเชียลฯ วิพากษ์วิจารณ์กันหลากหลายแง่มุม ทั้งเรื่องที่ต้องใช้งบประมาณมหาศาล ปัญหาด้านวิศวกรรม ผลกระทบสิ่งแวดล้อมทางทะเล ... แต่ที่หนักสุด ก็เรื่องชื่อสะพาน "จันทร์โอชา" นี่แหละ...บ้างก็ว่าถ้าจะตั้งชื่อนี้ก็อย่ามาเอางบประมาณแผ่นดินไปสร้าง ให้ "ลุงตู่" ออกเงินเอง...อย่าลืมบทเรียนเรื่อง "ฝายผ่องพรรณ" ภรรยา "บิ๊กติ๊ก" พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชาย "บิ๊กตู่" นั่นโดนถล่มไปเท่าไร ...คนเสนอสงสัยจะไอเดียมาจาก"ลุงกำนัน"...
เจ้านายโดนล่อเป้าเข้าอย่างนี้ โฆษกรัฐบาล "นฤมล ภิญโญสินวัฒน์" ที่กำลังมีคนจ้องเลื่อยขาเก้าอี้ ต้องรีบออกมาชี้แจง ยืนยันว่านายกฯไม่เคยสั่งการให้เอานามสกุล ไปตั้งชื่อสะพาน เป็นเรื่องที่ ส.ส.ในพื้นที่เสนอโครงการมาเท่านั้น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ยังไม่ได้มีการพิจาณาเรื่องนี้เลย...
เส้นทางการเมืองของ "สายัณห์" เติบโตมาจากนักการเมืองท้องถิ่น ไต่เต้าไปถึงตำแหน่งประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช คุ้นเคยอยู่กับการสร้างถนน สร้างสะพานในท้องถิ่น เมื่อได้มาเป็นส.ส. แถมสังกัดพรรคแกนนำรัฐบาล ก็เลยไอเดียกระฉูด เสนอ "บิ๊กโปรเจกต์" สร้างสะพานเชื่อมเกาะสมุย โดยไม่ปรึกษาหารือใคร ... เมื่อไปโพล่งในสภาฯ หวังเชลียร์ ก็เลยเป็นเรื่อง…
งานนี้"ลุงตู่"เลยโดนถล่มฟรีแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
**จัดการให้เข็ด! “แบล็กลิสต์”ผู้รับเหมาทิ้งงานอย่าได้หวังประมูลอีก “ศักดิ์สยาม”กล้าๆ สั่ง ทางหลวงชนบทเข้ม !
ปัญหาถนนหนทางบ้านเราชำรุดเสียหายเร็ว หรือ ก่อสร้างล่าช้า เป็นเรื่องที่เกิดมาช้านานและก็จะเป็นต่อไป ส่วนผู้รับเหมาทิ้งงานลอยนวลไม่กลัวถูกแบล็กลิสต์ แถมเสนอหน้ากลับมาอีกแบบสวยๆ ต่อถ้าไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างมีมาตรการเข้มข้นก็ไม่รู้เมื่อไหร่ จะก้าวพ้นปัญหา
งานนี้ทำดีก็ต้องชมกันหน่อย ในวาระตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายกรมทางหลวงชนบท (ทช.) “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ ทช.เพิ่มความเข้มงวด การกำกับดูแลงานซ่อมบำรุงของผู้รับเหมาที่อยู่ในระยะค้ำประกันตามสัญญา เพราะ พบว่า ผู้รับเหมาซ่อมบำรุงล่าช้ากว่าที่กำหนด 30 วัน ซึ่งถนนที่ชำรุด จะส่งผลทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ หากผู้รับเหมาไม่ทำ ให้ทช.ดำเนินการเข้มข้นขึ้น โดยนำเงินค้ำประกันมาดำเนินการซ่อมเอง
นอกจากให้ ทช.เข้มงวดแล้ว "ไฮไลต์" ที่ต้องขีดเส้นใต้กันไว้คือ ให้ทางหลวงชนบท แก้ไข ระเบียบ ว่า จะ"ขึ้นบัญชีดำ" เป็น “ผู้รับเหมาทิ้งงาน”ได้หรือไม่ เพราะถือว่าไม่มีความรับผิดชอบ
ตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง ตามสัญญาผู้รับจ้างจะมีการรับประกันงานซ่อมบำรุงรักษาถนนเป็นระยะเวลา 2 ปี หลังส่งมอบงาน โดย ทช. จะทำการตรวจสภาพทางทุก 3 เดือน หากพบถนนชำรุด เสียหาย (ยกเว้นจากเหตุภัยพิบัติ น้ำท่วม ) จะแจ้งผู้รับเหมาให้เข้ามาดำเนินการซ่อมแซมภายใน 30 วัน ซึ่งหากไม่เข้ามาซ่อมแซม ทช.จะขึ้นบัญชีดำ (Black List )ตัดสิทธิ์ยื่นประกวดราคา ซึ่งที่ผ่านมา พบว่าผู้รับเหมาส่วนใหญ่ มักจะเพิกเฉย และเข้ามาดำเนินการซ่อมแซมในช่วงระยะรับประกันปีที่ 2 เพื่อปลดบัญชีดำ ทำให้สามารถยื่นประมูลงานได้อีก
งานนี้ "รมว.คมนาคม" กำชับให้ดูว่า จะเพิ่มความเข้มข้นอย่างไร เช่น ปรับปรุงระเบียบ จากการ ขึ้นบัญชีดำตัดสิทธิ์ยื่นประกวดราคา เป็นขึ้นบัญชีดำเป็นผู้รับเหมาทิ้งงานแทน ซึ่งจะทำให้ผู้รับเหมาไม่สามารถยื่นประมูลงานได้อีกเลย ถ้าทำได้นี่ย่อมเป็นการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและคืนผิวจราจรให้ประชาชนสามารถสัญจรได้อย่างรวดเร็วปลอดภัยที่สุด โดยปัจจุบัน มีผู้รับเหมาขึ้นทะเบียน กับกรมทางหลวงชนบทอยู่ประมาณ 400 ราย
งานนี้ขอปรบมือรัวๆ