ส.ส.ปชป. หารือสภาฯ ห่วง ปั่นราคาปาล์มพุ่ง 7.50 บ. เปิดทางนำเข้า เสนอ "ประวิตร" จับเข่าคุย "นายกฯ" ใช้งบกลาง 483 ล. ติดมิเตอร์วัดสต๊อกน้ำมันปาล์มทั่วประเทศ แก้ปัญหาลักลอบนำเข้า บี้ รัฐ เร่งผลักดันกม.ปาล์มน้ำมันฯ-จำกัดด่านนำเข้า
วันนี้ (16ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างการหารือก่อนเข้าสู่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร นางสาวพิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้หยิบยกข้อกังวลของชาวสวนปาล์มเกี่ยวกับราคาปาล์มที่พุ่งสูงขึ้นถึง 7.50 บาทว่า เป็นการปั่นราคาเพื่อหาข้ออ้างนำเข้าปาล์มจากต่างประเทศหรือไม่ พร้อมชี้ให้เห็นถึงราคาน้ำมันปาล์มในประเทศที่สูงกว่าต่างประเทศจำนวนมาก โดยราคา CPO รายวันของวันที่ 13 มกราคมเฉลี่ยกิโลกรัมละ 30 บาท 92 สตางค์ ส่วนมาเลเซียอยู่ที่ กิโลกรัมละ 22 บาท 96 สตางค์ ต่างกันประมาณ 8 บาท ซึ่งเป็นส่วนต่างที่จูงใจให้มีการลักลอบนำเข้าเพิ่มขึ้น
นางสาวพิมพ์รพี ยังเสนอแนะรัฐบาลสามเรื่องและทวงถามในสองประเด็น ประกอบด้วย 1 ราคาที่เพิ่มไม่หยุดในขณะนี้เป็นไปตามกลไกตลาดหรือมีใครจงใจปั่นราคาให้สูงขึ้น โดยมีวาระแอบแฝงเพื่อเป็นข้ออ้างในการนำเข้าปาล์มหรือไม่ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องหาคำตอบให้เจอ ไม่ใช่กระหยิ่มยิ้มย่องว่าราคาสูงขึ้นเท่านั้น
2 ในเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน ผลผลิตจะเริ่มทยอยออกสู่ตลาด รัฐบาลต้องเตรียมรับมือแต่เนิ่น ๆ กับฤดูกาลที่ปาล์มเข้าสู่ช่วงล้นตลาด ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาตั้งแต่ยังไม่เกิดปัญหา โดยต้องติดตามตรวจสอบให้ทุกกลไกที่วางไว้ทำงานได้ตามแผน
3 เรื่องการติดตั้งมิเตอร์ตรวจเช็คสต๊อกน้ำมันแบบเรียลไทม์ทั่วประเทศใช้งบประมาณ 483 ล้านบาท ซึ่งในงบประมาณปี 2563 ไม่ได้มีการจัดสรรไว้ ทั้ง ๆ ที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มแห่งชาติ หรือ กนป.มีมติเรื่องนี้ไปตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคมปีที่แล้ว ล่าช้ามาห้าเดือนแล้วยังดำเนินการไม่ได้ จึงอยากให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกปน. หารือกับนายกรัฐมนตรี ใช้งบกลางมาดำเนินการเรื่องนี้ทันที เพราะจะส่งผลดีทั้งการป้องกันการลักลอบนำเข้า ไปจนถึงการที่รัฐจะมีข้อมูลเป็นจริงเกี่ยวกับสต๊อกน้ำมันมาใช้ในการบริหารจัดการได้อย่างถูกจุดด้วย
4 ทวงถามถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับพระราชบัญญัติปาล์มน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปาล์มน้ำมันที่ล่าช้ามานานนับปีแล้วว่า สถานะไปถึงไหน เมื่อไหร่จะมีผลบังคับใช้เพื่อให้เกิดโคร สร้างราคาที่เป็นธรรม และสุดท้ายสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับการจำกัดด่านนำเข้าน้ำมันปาล์มสามด่านคือ ด่านมาบตาพุด ด่านกรุงเทพและด่านแหลมฉบัง เพื่อสกัดการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มว่าดำเนินการไปถึงไหนแล้ว