xs
xsm
sm
md
lg

"กรณ์ จาติกวณิช" หลั่งน้ำตาลา ประชาธิปัตย์ ครวญเพลงแทนใจ "รักเธอเสมอ" ** "ลุงป้อม" เหลืออด ส่งสัญญาณให้ประชาธิปัตย์ กำราบ "เทพไท"

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว



**งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา "กรณ์ จาติกวณิช" หลั่งน้ำตาลา ประชาธิปัตย์ ยุติสัมพันธ์ 15 ปีแห่งความหลัง ครวญเพลงแทนใจ "รักเธอเสมอ"

กลางงานเลี้ยงปีใหม่ ที่กลุ่มส.ส. อดีต ส.ส.และ บรรดาแฟนคลับกลุ่มใกล้ชิดจัดให้ "มาร์ค" อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ร้านอาหาร ทีเฮ้าส์ ถนนพระราม 6 เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา

ท่ามกลางคนเข้าร่วมกว่า 50 คน อาทิ กรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีต รมว.คลัง เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ เลขาธิการพรรค สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และรองหัวหน้าพรรค องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค อัศวิน วิภูศิริ ชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม กันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ ส.ส.พังงา เทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช...

แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ในงานนี้ไม่ปรากฏว่ามี ส.ส.ที่ใกล้ชิด "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์" หัวหน้าพรรคคนปัจจุบันมาร่วมงาน แต่อย่างใด...

กรณ์ จาติกวณิช
ในงานเลี้ยงปีใหม่ซึ่งควรรื่นเริง กลับกลายเป็นงานเลี้ยงอำลาไปในบัดดล เมื่อ "กรณ์" ได้คุยส่วนตัวกับ ส.ส.ที่มาร่วมงานถึงการตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค โดยจะยื่นหนังสือลาออก ในวันนี้ (15 ม.ค.) ทำให้บรรดา ส.ส.ต่างถ่ายรูปคู่กับ"กรณ์" เพื่อเป็นที่ระลึก

บรรยากาศมาพีกถึงที่สุด เมื่อ"กรณ์ จาติกวณิช" ใช้โอกาสนี้ขึ้นไปร้องเพลง "รักเธอเสมอ" โดยว่ากันว่าในบางช่วงของเพลง "กรณ์" ถึงกับหลั่งน้ำตา ทำให้เพื่อน ส.ส.หลายคน เช่น นางกันตวรรณ น้ำตาไหล ร้องไห้ตามไปด้วย...

ด้วยบรรยากาศของการอำลาด้วยน้ำตานี้ "พนิต วิกิจเศรษฐ์" ส.ส.บัญชีรายชื่อ ถึงกับเอ่ยปากว่า "พรรคเราเดินมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ?"

เมื่อกรณ์ ร้องจบเพลง "พี่มาร์ค" อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เดินเข้าไปสวมกอดเพื่อให้กำลังใจ"กรณ์" เป็นฉากที่ตอกย้ำอารมณ์ของคนร่วมงาน

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ - เฉลิมชัย ศรีอ่อน
สำหรับเหตุผลการลาออกของ กรณ์ ในครั้งนี้ ฟังว่า เกิดจากความผิดหวังต่อคณะผู้บริหารพรรค ชุดปัจจุบัน ที่ปิดกั้นบทบาทของตัวเขา ที่เป็น "อดีตรมว.คลัง" ทุกทาง ถึงขนาดตั้งทีม"อเวนเจอร์" นำโดย "ปริญญ์ พานิชภักดิ์" มาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรค อีกทั้งไม่เคยหารือเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจ และงานของพรรคกับเขาเลย

ส่วนที่ยื่นใบลาในช่วงนี้เพราะ ร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 63 ผ่านสภาฯ เรียบร้อยแล้ว

"กรณ์ จาติกวณิช" เป็น ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ มาตั้งแต่ปี 2548 นับจนถึงปัจจุบัน เท่ากับอยู่กับพรรคมายาวนานถึง 15 ปี

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราฉันใด 15 ปีของ"กรณ์"กับความสัมพันธ์ "ประชาธิปัตย์" คงต้องทิ้ง 15 ปีไว้ข้างหลังฉันนั้น

ก็ต้องติดตามต่อไปว่า เส้นทางใหม่ของ "กรณ์" จะไปทางไหน และเป็นอย่างไร...

** "ลุงป้อม" เหลืออด ส่งสัญญาณให้ประชาธิปัตย์ กำราบ "เทพไท" ที่ทำตัวเป็นฝ่ายค้านในรัฐบาล แต่เจอสวนกลับแบบไม่ยี่หระ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
การโหมโรงของฝ่ายค้านที่จะยื่นซักฟอกรัฐบาล โดยล็อกเป้าไปที่ "3ป.-2รมต.เศรษฐกิจ" แม้ว่าบุคคลที่อยู่ในข่ายถูกซักฟอก จะบอกว่า พร้อมชี้แจง แต่ลึกๆแล้วก็อดที่จะตื่นเต้น ตึงเครียดไปกับบรรยากาศที่ถูกปลุกเร้าไม่ได้

ยิ่งมาเจอ ส.ส.ประชาธิปัตย์ อย่าง "เทพไท เสนพงศ์" ที่มักทำตัวเป็น "ฝ่ายค้าน" ในรัฐบาล วิพากษ์วิจารณ์ทุกเรื่องโดยพุ่งเป้าไปที่ "พี่น้อง3ป." เป็นส่วนใหญ่ ทั้งผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญขจัดเงื่อนไขการสืบทอดอำนาจ โหวตสวนรัฐบาลไปเห็นชอบกับฝ่ายค้านในการตั้ง"กมธ.เช็กบิลม.44" วิจารณ์ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลว่าล้มเหลวในการแก้ปัญา

ล่าสุดก็พูดถึงเรื่อง วิ่งไล่ลุง-เดินเชียร์ลุง ว่าจะเป็นชนวนให้เกิดความขัดแย้งในสังคมรอบใหม่ ... ซึ่งก็จริงอยู่ ใครๆก็เป็นห่วงในเรื่องนี้ แต่"เทพไท" ก็อดที่จะไปแขวะ ไปโยงเข้ากับ"พี่น้อง3ป." ไม่ได้ว่า...วันนี้ได้เปลี่ยนคู่ขัดแย้งใหม่ เป็นระหว่างระบอบประยุทธ์ กับสังคมคนรุ่นใหม่ แสดงให้เห็นว่า 5 ปีที่อยู่ภายใต้การบริหารประเทศของคสช. นั้น ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ไม่สามารถปลดล็อกความขัดแย้งของสังคมได้ เป็นการยึดอำนาจที่เสียของอีกครั้งหนึ่ง และย้ำว่า... พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งของรัฐธรรมนูญที่มีการสืบทอดอำนาจจากคสช. จะต้องเป็นผู้ถอดสลักความขัดแย้งนี้ด้วยตนเองให้ได้

งานนี้ ทำเอา"ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ถึงกับเหลืออด

ต้องว้าก ไปยังพรรคประชาธิปัตย์ ให้จัดระเบียบ ดูแลลูกพรรคให้อยู่ในแถวหน่อย ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน อย่าปล่อยให้ "แหลม" ออกมาบ่อยนัก ซึ่ง"เฉลิมชัย ศรีอ่อน" ในฐานะเลขาธิการพรรค ก็ออกมารับลูกว่าได้ไปหารือกับ "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์" หัวหน้าพรรคแล้ว..."เรามีมาตรการอยู่แล้ว ขอให้รอดูแล้วกัน"

เป็นที่รับรู้กันในพรรคว่า "เทพไท"นั้น อยู่ในสาย "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" อดีตหัวหน้าพรรค... เป็นส.ส.นครศรีธรรมราช หลายสมัย เรียกได้ว่า "แก่พรรษา" จึงไม่สนใจ หรือเกรงอกเกรงใจ คณะผู้บริหารพรรคชุดปัจจุบันเท่าไรนัก

 จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ - เทพไท เสนพงศ์
เมื่อเจอ "ลุงป้อม" ส่งสัญญาณมาเช่นนั้น ก็ออกมาสวนทันควันว่า... เขากำลังทำหน้าที่ ส.ส.อยู่ พล.อ.ประวิตร ต้องเคารพความเห็นต่างของสมาชิก ไม่ใช่ว่า ผู้มีอำนาจต้องการอย่างไรแล้วเขาต้องทำตาม จะมาสั่ง ซ้ายหัน ขวาหัน ไม่ได้ ... และยังพูดถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะมีขึ้นว่า ถ้ารัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย ชี้แจงไม่ชัดเจน ฝ่ายค้านมีหลักฐาน มีใบเสร็จมาแสดง ก็ไม่สามารถโหวตให้ได้ เพราะถือเป็น 1 ใน 3 เงื่อนไข ของพรรคในการเข้าร่วมรัฐบาล คือไม่ยอมรับการทุจริต คอร์รัปชัน...

เป็นการแสดงออกให้เห็นว่า นอกจากจะไม่ให้ความสำคัญกับ"ลุงป้อม" แล้ว "เทพไท" ยังไม่สนใจกับท่าทีของหัวหน้าพรรค และ เลขาธิการพรรคด้วย

จะว่าไปแล้วพรรคประชาธิปัตย์ ถือเป็นพรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุด ที่ยังโลดแล่นในวงการเมืองไทย เคยเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล และพรรคร่วมรัฐบาลมาหลายครั้ง แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของประชาธิปัตย์ คือไม่ว่าจะร่วมรัฐบาลกับใคร ก็มักจะทำให้พรรคร่วมรัฐบาล ตกอยู่อาการ "หวาดระแวง" อยู่เสมอ ด้วยไม่สามารถคุมความเป็นเอกภาพในพรรคได้ การบริหารงานก็มักจะยึดความเป็นเอกเทศ ไม่สนใจกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ เห็นได้ชัดจากการร่วมรัฐบาลครั้งนี้ ที่ "ทีมเศรษฐกิจ" ของประชาธิปัตย์ ทำงานแบบขาดการบูรณาการกับ ทีมเศรษฐกิจของพรรคภูมิใจไทย และ พรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นแกนนำรัฐบาล

ยิ่งสภาพภายในพรรคประชาธิปัตย์ในวันนี้ ที่แยกกันอยู่แบบหลายก๊ก หลายก๊วน ขาดความเป็นเอกภาพภายในพรรค จนคุมกันไม่ได้ แสดงออกมาให้ภายนอกได้เห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยสมาชิกมักอ้างถึงความเป็น"ประชาธิปไตย"ภายในพรรค

แน่นอนในสายตาพรรคร่วมรัฐบาลจึงมองประชาธิปัตย์ อย่างไม่ไว้วางใจ และเห็นว่าอาจ"เป็นตัวปัญหา"ในอนาคตได้





กำลังโหลดความคิดเห็น