สวนกระแสปล้นทองลบบุรี! “เด็ก อนค.” ติง “หนุนประหาร-ต้านชายจูบชายในสภา” ใช้อารมณ์เกลียดชัง

“คณาสิต พ่วงอำไพ” ชง รู้มั้ย สนับสนุนโทษประหาร-ต่อต้านการจูบของ LGBT+ในรัฐสภามีจุดร่วมตรงไหน? ตรงที่ใช้อารมณ์เกลียดชังส่วนตัวตัดสิน

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(11 ม.ค. 63) เฟซบุ๊ก kanasit puangampai ของ นายคณาสิต พ่วงอำไพ อดีตผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ปัจจุบันเป็นหัวหน้าคณะทำงานเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ อนาคตใหม่ โพสต์หัวข้อ "รู้มั๊ยคะ การสนับสนุนโทษประหารกับการต่อต้านการจูบของ LGBT+ในรัฐสภามีจุดร่วมตรงไหน ?”

โดยระบุว่า “ตรงที่ใช้อารมณ์ความรู้สึกส่วนตัว ความเกลียดชังแค้นเคือง มากกว่าหัวใจของสิทธิมนุษยชน ไงล่ะ”

ทั้งนี้ โพสต์ของ คณาสิต พ่วงอำไพ เกิดขึ้นในท่ามกลางกระแสสังคมแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อมวลชนเดือดดาลอย่างมากต่อการกระทำอย่างอุกอาจของคนร้ายบุกปล้นร้านทองที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จ.ลพบุรี จนมีผู้เสียชีวิต 3 รายและบาดเจ็บ 4 ว่า ต้องการให้ประหารชีวิต รวมถึงญาติผู้เสียชีวิต ก็ต้องการให้ประหารเช่นกัน

ขณะเดียวกัน ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างก็มีการคอมเมนต์เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว วิจารณ์ถึงความโหดเหี้ยมของคนร้ายที่ยิงไม่เลือก รวมถึงทำให้เด็กเสียชีวิต ขณะเดียวกันก็เสนอให้คดีนี้ต้องประหารผู้ต้องหาสถานเดียวเท่านั้น

ที่น่าสนใจไปกว่านั้น(10 ม.ค.63) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม แถลงถึงเหตุการณ์คนร้ายปล้นร้านทองที่ จ.ลพบุรี แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ บางช่วงบางตอน ว่า


ประเทศเราไม่เคยมีเรื่องโหดเหี้ยมและก้าวร้าวรุนแรงขนาดนี้ โดยปกติที่มีการปล้นฆ่า จะมีการขู่เจ้าทรัพย์ให้หลบหนีและไว้ชีวิต แต่เหตุการณ์นี้ไม่ว่าใครที่อยู่ในเส้นทางที่คนร้ายเดินผ่าน เขายิงทุกคน ถือเป็นการกระทำที่ทารุณ โหดร้ายยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน....

เมื่อถามว่า สังคมต้องการให้มีการประหารชีวิตผู้ก่อเหตุดังกล่าว นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนประเมินแล้วเรื่องนี้โหดร้ายทารุณ เชื่อว่าหากคดีความถึงศาลจะตัดสินประหารชีวิต กระทรวงยุติธรรมเกี่ยวข้องในส่วนที่เมื่อจำเลยยื่นอุทธรณ์และฎีกาไปถึงเบื้องสูง กระทรวงยุติธรรมมีหน้าที่ถวายคำแนะนำ ตนมั่นใจว่าการถวายคำแนะนำ เราไม่ให้ลดโทษอยู่แล้ว เรื่องนี้เป็นหน้าที่รมว.ยุติธรรม ตนจะถวายคำแนะนำแบบนี้

เมื่อถามว่าเห็นด้วยหรือไม่หากมีการจับตาย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่สถานการณ์ หากคนร้ายขัดขืนเป็นหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการอยู่แล้ว ตนไม่ขัดข้องอะไร แต่ถ้าหากคนร้ายมอบตัวคิดว่าคงไม่ถึงตรงนั้น โดยขณะนี้กระทรวงยุติธรรมกำลังดำเนินการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเกี่ยวกับการจัดกรอบของคนที่อยู่ในข่ายที่ไม่สมควรได้รับการลดโทษ โดยกรมคุ้มครองการคุมประพฤติเป็นประธาน กำลังประชุมกันอยู่

ความจริง บ้านเมืองมีขื่อมีแป มีกฎหมายในการเอาผิดคนร้ายรายนี้อยู่แล้ว ซึ่งศาลยุติธรรมจะเป็นผู้ตัดสิน ว่าโทษถึงที่สุดแล้วจะเป็นอะไร ประหารหรือไม่

แน่นอน, โพสต์ของ คณาสิต พ่วงอำไพ อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ถือว่า สวนกระแสอย่างมาก แม้จะอ้างเรื่อง “สิทธิมนุษยชน” ก็คงต้องถูกย้อนถามถึงสิทธิมนุษยชนของคนบริสุทธิ์ที่ต้องเสียชีวิตและบาดเจ็บ จากการ “ปล้น” ของ “คนร้าย” ว่าสมควรได้รับการปกป้องหรือไม่???

ยิ่งเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับ กรณีชายจูบชายในรัฐสภา ก็ยิ่งเป็นละเรื่อง คนเขาเศร้ากับความโหดเหี้ยมของโจรร้าย ทั้งประเทศ ตัวเองจะหาประโยชน์ทางการเมือง คิดให้ดีว่ามีคนรู้ทัน!?