xs
xsm
sm
md
lg

ส.ส.เพื่อไทยรุมโวย “ชวน” ให้สัมภาษณ์อัด กมธ.พูดมากทำถกงบฯล่าช้า

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ส.ส.เพื่อไทย รุมโวย “ชวน” ให้สัมภาษณ์อัด กมธ.พูดมาก ทำถกงบฯล่าช้า “ปิยบุตร” ประท้วง “ครูแก้ว”หาว่า ส.ส.ใหม่อภิปรายไม่เป็น ท้าดูผลโพลอนาคตใหม่หลังจบ

ต่อมา เวลา 19.00 น.​ การอภิปรายเริ่มเข้มข้น เมื่อการพิจารณาเข้าสู่มาตรา 30 ว่าด้วยงบประมาณของหน่วยงานของรัฐสภา วงเงิน 5 พันล้านบาท โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นอภิปรายโดยอ่านคำสัมภาษณ์ของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ถึงภาพรวมการอภิปรายงบประมาณปี 2563 ว่า กมธ.พูดมากกว่าสมาชิก จึงทำให้เสียเวลามากว่า ไม่ทราบว่า นายชวนหมายถึงตนหรือเปล่า ตนในฐานะ กมธ.เสียงข้างน้อย มีหน้าที่นำข้อมูลในชั้น กมธ.มาอภิปรายต่อที่ประชุมว่า เหตุที่ต้องสงวนคำแปรญัตติไว้นั้น เป็นเพราะอะไร เพื่อมาโน้มน้าวเพื่อนสมาชิกให้เห็นตามพวกตนเช่นกัน แม้ซีกรัฐบาลจะเป็นเสียงข้างมาก แพ็กเสียงโหวตผ่านหมดทุกมาตรา ตนก็ไม่เคยว่า เพราะถือเป็นกระบวนการปกติ ดังนั้น ตนจึงไม่สบายใจ กับคำพูดของนายชวน เพราะทำให้กมธ.เสียงข้างน้อยและเพื่อนสมาชิกเสียหาย เพราะพวกตนทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญอยู่ ด้านนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ชี้แจงว่า ประธานชวนแค่ติงว่า การประชุมในวาระสองเป็นอภิปรายตามที่สงวนความเห็นเท่านั้น แต่ส.ส.บางคนยังอภิปรายในหลักการเหมือนกับวาระรับหลักการอยู่ ประธานชวนคงอยากให้ตรงประเด็น จะได้ประหยัดเวลา จึงอย่านำเรื่องนี้มาทำให้เกิดความรู้สึกไม่ดีต่อกันเลย ทำให้นายจุลพันธ์ ลุกขึ้นทักท้วงอีกครั้งว่า ตนอยากถามว่า สิ่งกมธ.เสียงข้างน้อย กระทำมา หรืออภิปรายมานั้นมันผิดใช่หรือไม่

จากนั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายในประเด็นเดียวกันว่า ตนคิดว่า เรื่องนี้เสียหาย ที่ผ่านมาประธานสภาฯ เป็นคนบอกว่า สภาเป็นที่พูด แต่ท่านให้ 7 นาที พวกตนก็รับได้เพื่อให้งานเดินได้ ทั้งๆที่สมาชิกมีเอกสิทธิที่จะอภิปรายได้ ที่ผ่านมา แม้จะมีการอภิปรายในหลักการแต่ก็ถือว่า เป็นเหตุที่ของสมาชิกในการเสนอปรับลด ท่านต้องยอมรับว่า ส.ส.กว่าครึ่งในสภาแห่งนี้ เป็นส.ส.หน้าใหม่ จึงอาจไม่เป๊ะตามที่ท่านอยากจะให้เป็น แต่ความเห็นต่างยังไงก็ต้องจบในสภาแห่งนี้ สิ่งที่พวกตนทำไปก็เพื่อประโยชน์ของประชาชน ตนอายมากที่การประชุม 2 มาตราท้ายของเมื่อค่ำเมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมานั้น ผ่านไปโดยไม่ได้ลงรายละเอียดเลย อีกทั้งตอนลงมติก็เหลือองค์ประชุมแค่ 300 คนเท่านั้น เพราะสถาแห่งนี้เหมือนกับพวกเราไม่ได้มาจากเลือกตั้งเลย ด้าน นายศุภชัย พยายามตัดบทว่า ตนอยากให้จบเรื่องนี้ได้แล้ว การทำงานในสภาโดยเฉพาะคำพูดอาจไม่ถูกใจกันทั้งหมด แต่นี่ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะต้องยอมรับว่า ส.ส.กว่า 60 % เป็นส.ส.ใหม่ บางทีไม่เข้าใจว่า วาระสองจะต้องอภิปรายยังไง ท่านประธานชวนก็อาจจะให้คำแนะนำเท่านั้น

ทำให้ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ลุกขึ้นประท้วงทันทีว่า นายศุภชัยทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ถือเป็น ส.ส.หน้าใหม่ทั้งหมดก็จริง แต่ที่ผ่านมาการอภิปรายของพวกตนพี่น้องประชาชนตัดสินใจได้ว่า ส.ส.ของเรานั้นปฏิบัติหน้าที่ในสภาแบบไหน เพื่อนส.ส.ซีกรัฐบาล และฝ่ายค้านต่างยกนิ้วให้ว่า ไม่เคยเห็นการอภิปรายที่เป็นระบบระเบียบแบบนี้มาก่อน แม้แต่ทีมงานของนายกรัฐมนตรียังประสานงานของข้อมูลที่พวกตนอภิปรายกัน ประธานพูดแบบนี้ถือว่า พวกตนเสียหาย ด้าน นายศุภชัย ชี้แจงว่า ตนไม่ได้หมายถึง ส.ส.อนาคตใหม่ แต่หมายถึงส.ส.บางคน ไม่ได้ระบุพรรค เป็นเพียงแค่ยกตัวอย่างเท่านั้น ทำให้ นายปิยบุตร ลุกขึ้นสวนทันทีว่า หากประธานคิดว่า ไม่เสียหายก็ไม่เป็นไร แต่ตนคิดว่า ในท้ายที่สุดพี่น้องประชาชนจะตัดสิน เดี๋ยวรอผลโพลว่า พรรคไหนอภิปรายเป็นอย่างไร ตนไม่เคยเกเรที่ต้องขึ้นประท้วง เพราะพวกตนทำงานหนักจริงๆ แต่อยู่ดีๆมาบอกว่า การพูดแบบนี้เหมือนกับ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่อภิปรายกันไม่เป็น


กำลังโหลดความคิดเห็น