“พรรณิการ์” ข้องใจ ตร.รัฐสภาขวางไม่ให้ก๊วนวิ่งไล่ลุงเข้าพื้นที่ ลั่นทำเต็มที่ปกป้องสิทธิ ถูกคุกคามร้องมาได้ ยันจะไล่บี้ กอ.รมน.มาตอบกรณี “อับดุลเลาะ” ขู่อย่าให้ใช้ พ.ร.บ.คำสั่งเรียก
วันนี้ (9 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.35 น. ที่รัฐสภา น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า กมธ.การกฎหมายฯ มีเรื่องค้างการพิจารณาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา คือ เรื่องการจัดงาน “วิ่งไล่ลุง” ที่จะมีขึ้นในวันที่ 12 ม.ค.นี้ ซึ่งมีการร้องเรียนมายังคณะ กมธ.ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 62 โดยทาง กมธ.ได้เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตอบข้อซักถามแล้ว และได้รับคำตอบว่าสามารถจัดงานวิ่งไล่ลุงได้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ปรากฎว่าที่ผ่านมาในหลายพื้นที่ยังเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดกั้นประชาชน ล่าสุดวันนี้ (9 ม.ค.) นายธนวัฒน์ วงศ์ไชย ผู้จัดงานวิ่งไล่ลุงในพื้นที่ กทม. นำหนังสือจะมาเชิญ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านไปร่วมวิ่งไล่ลุง แต่ตำรวจรัฐสภาไม่อนุญาตให้เข้ามาในพื้นที่รัฐสภา เพราะนายธนวัฒน์สวมใส่เสื้อกิจกรรมวิ่งไล่ลุงมา โดยตำรวจรัฐสภาบอกว่าให้ไปเปลี่ยนเสื้อก่อนไม่เช่นนั้นจะไม่ให้เข้า ตนจึงเกิดคำถามว่ารัฐสภาเป็นพื้นที่ของประชาชน โดยทั่วไปไม่มีประชาชนคนไหนใส่สูทผูกไทเข้ามา แต่เหตุใดผู้จัดงานวิ่งไล่ลุงจึงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาบริเวณรัฐสภา หากปล่อยให้สภาใช้อำนาจโดยไร้การอ้างอิงแบบนี้ ส.ส.คงไม่สามารถอ้างได้ว่าเป็นตัวแทนของประชาชน ทั้งนี้ เราไม่รู้ว่าวันที่ 12 ม.ค.นี้จะเกิดอะไรขึ้น เพราะหลายพื้นที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งห้ามจัดกิจกรรม ดังนั้น เราขอยืนยันต่อประชาชนว่าจะทำเต็มความสามารถ เพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพ หากใครถูกคุกคาม หรือสั่งห้ามเข้าร่วมกิจกรรมสามารถมาร้องเรียนกับทาง กมธ.ได้
น.ส.พรรณิการ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีกรณีของนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ ที่ถูกควบคุมตัวภายในค่ายอิงทยุทธบริหาร จ.ปัตตานี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่ง กมธ.เคยเชิญเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) มาซักถาม แต่ได้เลื่อนไปในครั้งแรก และครั้งที่ 2 มีเพียงตัวแทนจาก รพ.สงขลานครินทร์ และญาติผู้ร้อง มาให้ข้อมูล โดยไม่ได้รับคำตอบจาก กอ.รมน. ซึ่งตนในฐานะ กมธ. ขอยืนยันว่าจะยังแสวงหาข้อเท็จจริงต่อไป เพื่อให้ กอ.รมน.มาตอบข้อซักถาม ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทางคณะ กมธ.ไม่เคยใช้ พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะ กมธ.เลย แต่เพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนก็อาจจำเป็นต้องใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม อย่าให้ต้องใช้อำนาจกันขนาดนั้นเลย