รมว.มหาดไทยกำชับ กทม.และจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นพีเอ็ม 2.5 เร่งแก้ไขปัญหาให้ประชาชน พร้อมเข้มงวดมาตรการป้องกัน ตรวจจับรถควันดำ รณรงค์ลดใช้รถยนต์ส่วนตัว ควบคุมการเผาในที่โล่งแจ้ง พร้อมติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
วันนี้ (8 ม.ค. 63) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าในช่วงสัปดาห์นี้สภาพความกดอากาศสูงอ่อนแรงลง ไม่มีแรงลม และไม่มีการเคลื่อนที่ในชั้นพื้นที่ราบที่คนอาศัย ทำให้ปริมาณค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเพิ่มสูงขึ้นในหลายพื้นที่ทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ได้กำชับกรุงเทพมหานครและจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็กให้กวดขันเรื่องการดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง โดยเฉพาะมาตรการลดมลพิษจากต้นกำเนิด ได้แก่ มาตรการด้านการขนส่งและจราจร เช่น การตรวจจับรถควันดำ การรณรงค์ให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล มาตรการควบคุมการเผาในที่โล่งแจ้งและพื้นที่เกษตรกรรมอย่างเคร่งครัด เข้มงวด การตรวจสอบควบคุมการปล่อยมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม และการควบคุมฝุ่นละอองจากการก่อสร้างและระบบสาธารณูปโภคให้ถูกต้องการหลักวิชาการ นอกจากนี้ให้มีมาตรการในการติดตาม เฝ้าระวัง ประเมิน วิเคราะห์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก และปรับแผนเผชิญเหตุให้ทันต่อสถานการณ์ พร้อมทั้งสร้างการรับรู้แก่ประชาชนให้ทราบสถานการณ์ที่ถูกต้อง
พล.อ.อนุพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพร่างกาย เช่น หลีกเลี่ยงกิจกรรมและการออกกำลังกายในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน ใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กเข้าสู่ร่างกาย สำหรับกลุ่มเสี่ยงได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ควรหมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกาย และหากผิดปกติรีบพบแพทย์ทันที ทั้งนี้ ในเขตกรุงเทพมหานครประชาชนสามารถรับหน้ากากอนามัย คนละ 1 ชิ้น ได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 68 แห่ง และสำนักงานเขต 50 เขต นอกจากนี้ หากพบว่าพื้นใดมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก เกิน 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร 3 วันติดต่อกัน สำนักอนามัยจะออกหน่วยเคลื่อนที่ ให้บริการตรวจสุขภาพในพื้นที่ที่พบฝุ่นละองมีค่าเกินมาตรฐาน
