“เศรษฐพงค์” ชี้รัฐบาลจะมองข้าม “Space security” ไม่ได้ หลังปฏิบัติการโดรนโจมตีผู้นำทหารอิหร่าน แนะให้ความสำคัญกิจการอวกาศ-เร่งผลักดัน “Space agent” เพื่อความมั่นคงปลอดภัยและเอกภาพของกิจการอวกาศ ระบุหน่วยงานความมั่นคงต้องปรับตัวให้ทันเทคโนโลยี รับเหตุการณ์ไม่คาดคิด
เมื่อวันที่ 8 ม.ค. พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กมธ.ดีอีเอส) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ นายพลกาเซ็ม โซไลมานี อดีตผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ ผู้ทรงอิทธิพลของอิหร่าน เสียชีวิตจากปฏิบัติการโดรนโจมตีทางอากาศ ว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมองได้ว่าเป็นปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์อันเนื่องมาจากการเกิดขึ้นของเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาขึ้น ด้วยการใช้โดรนโจมตีเป็นอาวุธในปฏิบัติการ แม้ก่อนหน้านี้เคยมีการใช้มาบ้างแล้ว แต่ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น ทำให้เห็นภาพชัดเจนของการใช้โดรนทางทหารที่ไม่จำกัดเฉพาะในเรื่องการขนส่ง การศึกษา หรือเชิงพาณิชย์ ซึ่งไทยเราจะมองข้ามไม่ได้ เพราะมีความสำคัญต่อการวางแผนเรื่องการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Cyber security) โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อมโยงกับความมั่นคงปลอดภัยทางกิจการอวกาศ (Space security) ด้วยการใช้โดรนเป็นอาวุธจะต้องมีการเชื่อมกับระบบนำทางผ่านดาวเทียม รวมถึงกิจการอวกาศต่างๆ ที่มีการพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับปฏิบัติการ ซึ่งอนาคตประเทศไทยหนีไม่พ้นที่จะต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านอวกาศเพื่อรองรับเหตุการณ์ไม่คาดฝันให้ได้
“แม้ประเทศไทยเราไม่ใช่คู่ขัดแย้ง แต่ความสำคัญของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นเรื่องเฉพาะของโดรน แต่มันเกี่ยวข้องกับเรื่องการควบคุมทางอากาศและทางอวกาศ เป็นตัวอย่างที่รัฐบาลจะมองข้ามเรื่องกิจการอวกาศ กิจการดาวเทียม เรื่อง Cyber security และ Space security ที่มีความเชื่อมโยงกันทั้งหมดไม่ได้ ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่มีหน่วยงานด้านกิจการอวกาศเป็น Space agent เพื่อการทำงานให้เป็นเอกภาพ ในการกำหนดทิศทาง นโยบายทิศของประเทศด้านกิจการอวกาศ รวมถึงพัฒนากิจการอวกาศให้มีความทันสมัยทัดเทียมนานาประเทศ หากเราไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ก็อาจจะมีปัญหาได้ในอนาคต เพราะเรื่องอวกาศไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป จากกรณีการใช้โดรนโจมตีที่มีคนบังคับห่างออกไปเป็นพันๆ กิโลเมตร แต่สามารถหลบหลีกการระวังป้องกันได้ ถือเป็นตัวอย่างที่เราต้องหันมาให้ความสำคัญในด้าน Space security” พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าว
พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าวต่อว่า ปัจจุบันนอกจากประเทศสหรัฐฯ ที่มีการพัฒนาด้านอวกาศอย่างจริงจังแล้ว ในเอเชียก็มีประเทศจีน ได้มีการพัฒนาเรื่องกิจการอวกาศอย่างจริงจัง และเป็นไปในลักษณะก้าวกระโดด คือ เขามีการลงทุน มีเป้าประสงค์ที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการส่งยานอวกาศไปดาวอังคาร หรือการตั้งสถานีอวกาศของตัวเอง หรือการพัฒนาระบบ GPS ของตัวเอง ซึ่ง Space security ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาด้านกิจการอวกาศ ด้วยการใช้โดรนทั้งในการโจมตีและป้องกัน ตอนนี้หลายประเทศก็มีการพัฒนาโดรนขึ้นใช้เอง ดังนั้น ประเทศไทยจึงมองข้ามเรื่องนี้ไม่ได้ นอกจากนี้ อยากฝากถึงหน่วยงานความมั่นคงทางด้านการทหารของไทยจะต้องปรับตัว ปรับรูปแบบการรบ ยุทธวิธี และตื่นตัวการเทคโนโลยีด้านการทหารที่พัฒนาเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แม้กำลังทหารยังเป็นสิ่งจำเป็น แต่ก็ต้องให้ความสำคัญในการปรับระบบและกระบวนการด้านการศึกษาวิจัยและพัฒนาให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดทางเทคโนโลยี เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด