นายกฯ มอบโอวาทเด็กและเยาวชนดีเด่น ย้ำ ให้ตั้งมั่นในความดี มีสำนึกรักชาติ อย่าลืมความเป็นไทยที่บรรพบุรุษเสียเลือดเนื้อรักษาไว้แล้วมาทำลายกันเอง ขอให้รู้หน้าที่ เคารพกฎหมาย ห่วงเทคโนโลยีข่าวสารแพร่ข้อมูลบิดเบือน ต้องมีภูมิคุ้มกันในการอ่านการโพสต์
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (8 ม.ค.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบโอวาทเด็กและเยาวชนดีเด่น เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลให้ความสำคัญเด็กและเยาวชนมาก เพราะถือเป็นทรัพยากรที่มีค่าของประเทศ ในฐานะกำลังสำคัญของชาติต้องเตรียมความพร้อม โดยรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมมีความรู้คู่คุณธรรม คือ ต้องรู้ว่าอะไรดีไม่ดี รวมถึงจริยธรรม ย้ำว่ารัฐบาลดูแลทุกคนทุกกลุ่มทุกฝ่าย ขอทุกคนใฝ่รู้ใฝ่เรียนและรู้จักเวลาว่า วันหนึ่งควรทำอะไรบ้างอย่าใช้เวลาไปเปล่าประโยชน์ ตนเข้าใจว่าเด็กต้องใช้เวลาสนุกสนานบ้าง แต่อย่าใช้เวลาเป็นเล่นไปหมด ต้องจัดเวลาให้เหมาะสม ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ตัวเองที่จะทำให้ตัวเองมีความสุข โดยขอให้ประพฤติปฏิบัติตนตั้งมั่นอยู่ในความดี มีสำนึกรักชาติบ้านเมืองและรักษาวัฒนธรรมประจำชาติ และทำสิ่งเหล่านี้ให้มีค่าในสังคม สิ่งสำคัญคือคนในชาติ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนให้คำขวัญไว้ คือ เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย ซึ่งอยากให้ทุกคนนำไปสู่การปฏิบัติให้ได้ โดยหน้าที่คู่กับคำว่าสิทธิ ทุกคนมีสิทธิในการเป็นพลเมืองไทย แต่ต้องคำนึงถึงคำว่าหน้าที่ต่อชาติบ้านเมืองด้วย ทั้งหน้าที่ต่อครอบครัว หน้าที่ต่อพ่อแม่ หน้าที่ต่อครูอาจารย์ และหน้าที่ต่อเด็กกับผู้ใหญ่ ถ้าเอาแต่สิทธิเสรีภาพอย่างเดียวข้างใดข้างหนึ่งก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา และทำให้ประเทศชาติเสียหาย ดังนั้นทุกคนต้องประพฤติปฏิบัติตั้งมั่นอยู่ในความดี โดยยึดหลักชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ เป็นหลักสำคัญของประเทศและบ้านเมืองของเรา
“ผมหวังอย่างยิ่งว่าพวกเราทุกคนจะเจริญเติบโตเป็นคนดีมีคุณภาพ ไม่ได้หมายความแค่ในห้องนี้เท่านั้น แต่คาดหวังว่าคนทั้งประเทศ ลูกหลานของเราจะมีการเจริญเติบโตในอนาคตเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ ดังนั้น คำว่าพลเมืองก็คือคนที่มีคุณภาพ ประเทศใดที่มีพลเมืองที่มีคุณภาพก็จะเจริญก้าวหน้าเป็นประเทศชั้นนำในโลก ทั้งด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง ศิลปวัฒนธรรม และสิ่งต่างๆ ซึ่งเรามีความพร้อมหลายด้านอยู่แล้ว ต้องหาตัวเราให้เจอและต้องเรียนรู้ประวัติศาสตร์ว่าเราเป็นใครมาจากไหน เพราะเราเกิดในแผ่นดินไทย บางคนไปเรียนต่างประเทศบ้าง แต่ส่วนใหญ่เราก็เกิดในแผ่นดินไทยทั้งสิ้น ดังนั้น ต้องคำนึงถึงผืนแผ่นดินที่ให้เราอยู่อาศัย ให้เราได้เกิดได้โตมาจนถึงทุกวันนี้ มีอะไรบ้างที่เราต้องตอบแทน เขาไม่เคยเรียกร้องอะไรจากเรา มีแต่เราเรียกร้องจากเขา ดังนั้นแผ่นดินผืนนี้เป็นแผ่นดินที่มีความสุข เราต้องอย่าทำให้ไม่มีความสุขเลย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ขอให้ทุกคนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ มีความรักมีความสามัคคี มีความกตัญญูรู้คุณและมีคุณธรรม รู้หน้าที่พลเมืองที่ดี รวมทั้งมีระเบียบวินัย สิ่งสำคัญต้องเคารพกฎหมาย ซึ่งคนไทยต้องเรียนรู้กฎหมาย และปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมืองก็จะไม่วุ่นวาย และไม่เกิดปัญหาหรือผลกระทบกับคนอื่น หากแต่ละฝ่ายใช้ปัญหาและใช้กฎหมายเพื่อตัวเองมากเกินไปก็จะกระทบกับคนอื่น เพราะคนอื่นไม่ได้ร่วมมือด้วย จึงจะเกิดปัญหาได้ในหลายๆ เรื่อง ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกัน อีกทั้งต้องรักและสามัคคีกันให้ได้ ซึ่งเป้าหมายที่ทุกคนต้องการคือประเทศชาติมีความสุขสงบมีสันติ และมีการพัฒนาที่ยั่งยืน
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้โลกโลกาภิวัตน์ทำให้โลกแคบลง เชื่อมต่อกันทั้งโลก อย่างวันนี้ปัญหาเศรษฐกิจก็มีปัญหากันทั้งโลก ปัญหาความจัดแย้งการการสู้รบที่กระทบเศรษฐกิจไปด้วย ดังนั้นเราต้องเตรียมความพร้อมของเรา ด้วยสิ่งสำคัญคือบ้านเมืองต้องสงบสุข เมื่อเราสงบสุขมีสันติก็สามารถทำอะไรก็ได้ที่จะทำให้เกิดมูลค่า และทำให้เกิดรายได้ขึ้นมา ถ้ามัวแต่ทะเลาะกันแย่งกันก็จะติดขัดไปทั้งหมด การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลก็เดินหน้าไม่ได้ เพราะสิ่งที่รัฐบาลทำไป ทำเพื่อคนทุกกลุ่ม ทุกคนถ้าทุกคนสนองตอบในแนวนโยบายก็จะได้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านั้น ขณะเดียวกันต้องคำนึงถึงคนทั้งประเทศย้ำว่ารัฐบาลเป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ แม้จะมาจากหลายส่วนหลายพรรคการเมือง แต่เป็น ครม.ในปัจจุบัน โดยทำหน้าที่เพื่อคนทุกกลุ่มทุกฝ่าย เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนทุกหมู่เหล่า และทุกพื้นที่ที่มีความแตกต่างกัน โดยยืนยันจะพยายามทำให้ดีขึ้น
นายกฯ กล่าวอีกว่า ตนมีความเป็นห่วงในเรื่องความก้าวหน้าเทคโนโลยี ข้อมูลข่าวสารที่แพร่ไปอย่างรวดเร็ว แต่เป็นข้อมูลที่ถูกต้องหรือไม่ คงต้องมีภูมิคุ้มกันในการอ่านและโพสต์ เพราะจะสร้างความไม่เข้าใจบิดเบือน สับสนอลหม่านได้ ต้องมีความรู้คู่คุณธรรมและวิเคราะห์ อีกทั้งต้องมีทักษะการอยู่ร่วมกันในสังคมที่ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัย เผื่อแผ่แบ่งปัน บางคนลืมไปทำให้เกิดปัญหาในสังคม ขณะเดียวกันย้ำว่าทุกคนต้องเรียนรู้ประวัติศาสตร์ หากไม่รู้ประวัติศาสตร์ แล้วเราจะรักประเทศของเราได้อย่างไร ในเมื่อยังไม่รู้จักประเทศของตนเองเลย
“อยากจะเตือนหลายๆ คนโดยเฉพาะเด็กๆ ให้ระลึกอยู่เสมอว่าเราเกิดบนผืนแผ่นดินไทย ไม่ว่าเราจะไปที่ไหน เราก็ลืมความเป็นไทยไม่ได้ ลืมสิ่งที่บรรพบุรุษของเราได้เสียสละเลือดเนื้อ รักษาแผ่นดินผืนนี้ไว้ แล้วเราจะทำลายกันเองเหรอ ทำลายด้วยพวกเรากันเองหรอ ทั้งที่ต่อสู้กันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ต่อสู้กับอริราชศัตรูรอบด้านรอบประเทศ จนเป็นไทยได้ทุกวันนี้” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครทำอะไรแล้วพอใจและถูกใจกันได้ทั้งหมด แต่ต้องรู้ว่าทำได้มากหรือทำได้น้อย หรือทำได้มากกว่าในอดีตที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องคิดใคร่ครวญด้วยเหตุผล