ซูเปอร์โพลเผยที่สุดการเมืองปี 62 สุขที่สุดได้เลือกตั้ง นโยบายโดนใจที่สุด บัตรสวัสดิการ-ชิมช้อปใช้ สุดยอดรัฐมนตรีแก้ปัญหารากหญ้า “สนธิรัตน์-อุตตม” ทุกข์ที่สุดเรื่องปากท้องค่าครองชีพ เซ็งที่สุดการเมืองแย่งชิงอำนาจ กังวลที่สุดการเมืองวุ่นวาย
วันนี้(27 ธ.ค.) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POL) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง “ที่สุดของการเมืองปีที่ผ่านมา” กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) สำรวจทั้งในโลกโซเชียล (Social Media Voice) และเสียงประชาชนในโลกดั้งเดิม (Traditional Voice) จำนวนทั้งสิ้น 1,220 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 20-26 ธันวาคม 2562
เมื่อถามถึง สุขที่สุดของการเมือง พบว่า ได้เลือกตั้ง ร้อยละ 40.9 รองลงไปคือมีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ร้อยละ 32.5 และอื่น ๆ เช่น พรรคที่ชอบ ส.ส.ที่ชอบ ชนะ ร้อยละ 26.6
เมื่อถามถึง นโยบายรัฐบาลที่โดนใจ (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 61.8 ระบุ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รองลงมา คือ ร้อยละ 53.4 ระบุ ชิมช้อปใช้ , ร้อยละ 49.3 ระบุ โรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเกษตรกร น้ำมัน B10 และลดราคาก๊าซหุงต้ม , ร้อยละ 32.4 ระบุ รับยา ร้านยาใกล้บ้าน , ร้อยละ 30.3 ระบุ 100 เดียวเที่ยวทั่วไทย , ร้อยละ 20.2 ระบุ กัญชาเพื่อการแพทย์ และ แก้ปัญหาสัตว์ป่า สัตว์ทะเล , ร้อยละ 18.4 ระบุ แบนสารพิษ และ ร้อยละ 25.6 อื่น ๆ เช่น ขยายสนามบิน และเปิดเส้นทางรถไฟฟ้าเพิ่มเติม เป็นต้น
ส่วน 5 อันดับแรก สุดยอดรัฐมนตรีแก้ปัญหารากหญ้า พบว่า สูสีกันระหว่าง อันดับ 1 และ 2 คือ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ร้อยละ 21.8 และ นายอุตตม สาวนายน รมว. การคลัง ร้อยละ 21.2 อันดับ 3 ได้แก่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร้อยละ 20.1 อันดับ 4 ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข ร้อยละ 18.4 อันดับ 5 ได้แก่ นายจุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฏ์ รมว.พาณิชย์ ร้อยละ 14.4
ในประเด็นทุกข์ที่สุดของการเมือง พบว่า อันดับแรก ปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพสูง ราคาอาหาร สินค้า แพง การเงินขัดสน ร้อยละ 46.7 อันดับที่สอง ได้แก่ นักการเมืองไม่ดี ทำลายความสงบสุขของบ้านเมือง ร้อยละ 28.9 อันดับที่สาม ได้แก่ พรรคที่ชอบแพ้เลือกตั้ง ร้อยละ 23.2 และอื่น ๆ เช่น ชุมนุม รถติด นักการเมืองเอาแต่ทะเลาะกัน ไม่สนใจแก้ปัญหาเดือดร้อน มุ่งแต่ปัญหาของตัวเอง ของพรรค เป็นต้น ร้อยละ 1.2 ตามลำดับ
นอกจากนี้ ที่เซ็งที่สุด เบื่อที่สุดของการเมือง พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 63.3 ระบุ แย่งชิงอำนาจ มุ่งทำลายกัน แย่งตำแหน่งการเมือง รองลงมาคือ ร้อยละ 35.3 ระบุ แย่งชามข้าว แย่งกล้วย แย่งผลประโยชน์ และร้อยละ 1.4 ระบุ ก่อความวุ่นวาย ปลุกระดมปั่นป่วน เป็นต้น
ที่ประชาชนกังวลที่สุดของการเมือง พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.8 ระบุ บ้านเมืองวุ่นวาย ขัดแย้งรุนแรงบานปลาย แตกแยกในหมู่ประชาชน รองลงมาคือ ร้อยละ 17.4 ระบุ ผลกระทบของวิ่งไล่ลุง ฝ่ายหนุน ฝ่ายต้าน และ ร้อยละ 2.8 ระบุ อื่น ๆ เช่น เศรษฐกิจถดถอย แย่ลงไปอีก เป็นต้น
ดร.นพดล กล่าวอีกว่า จากการสำรวจที่สุดของการเมืองปีที่ผ่านมา พบการเลือกตั้งและรัฐบาลจากการเลือกตั้งทำประชาชนสุขสุด แต่ปัญหาปากท้องค่าครองชีพสูง การเงินขัดสนทำประชาชนทุกข์สุด อย่างไรก็ตามนโยบายรัฐบาลหลายตัวที่โดนใจประชาชน เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ชิมช้อปใช้ โรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจรากหญ้าและน้ำมันดีเซล B10 ทำราคาปาล์มสูงขึ้น เป็นต้น ส่งผลให้รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ได้รับโหวตเป็นสุดยอดรัฐมนตรีแก้ปัญหารากหญ้า อาทิ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ , นายอุตตม สาวนายน , นายวราวุธ ศิลปอาชา , นายอนุทิน ชาญวีรกูล และนายจุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฏ์ ตามลำดับ
“ผลโพลนี้ชี้ให้เห็นด้วยว่าข้อมูลสถานการณ์ทางการเมืองล่าสุดไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด เพราะประชาชนส่วนใหญ่ได้รับประโยชน์จากนโยบายหลายนโยบายของรัฐบาล ดังนั้นประเทศและประชาชนน่าจะเดินหน้าต่อได้ จึงไม่น่าจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองด้วยวงจรอุบาทว์ยึดอำนาจกันอีก ถ้าฝ่ายการเมืองทุกกลุ่มมุ่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ทำงานทางการเมืองเชิงสร้างสรรค์มากกว่าจะมุ่งโค่นล้มทำลายกันเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง” ดร.นพดล กล่าว