ประชุมรัฐสภา มีมติเห็นชอบข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ฝ่ายค้านเสนอแก้วิธีนับคะแนนใหม่ “ชวน” ขออภัยสมาชิกลงคะแนนขลุกขลักเนื่องจากสภาสร้างเสร็จไม่ทันกำหนด แถมมีปัญหาเรื่องเก้าอี้นั่ง
วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาครั้งที่ 1 ของสมัยประชุมสามัญครั้งที่ 2 มีมติ 598 ต่อ 0 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง เห็นชอบร่างข้อบังคับการประชุมรัฐสภาที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว โดยพลเอกสิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ชี้แจงต่อที่ประชุมถึงหลักการที่ต้องมีการตราข้อบังคับเพื่อใช้สำหรับการประชุมร่วมกันของรัฐสภา โดยสาระสำคัญส่วนใหญ่ยังคล้ายคลึงกับข้อบังคับการประชุมรัฐสภาเมื่อปี 2553 แต่มีการแก้ไขเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญปี 2560
ทั้งนี้สมาชิกหลายคนได้อภิปรายถึงปัญหาการใช้ข้อบังคับ โดยเฉพาะข้อที่ 58 เกี่ยวกับการขอให้มีการนับคะแนนใหม่ โดยให้ใช้วิธีการลงคะแนนขานชื่ออีกครั้ง นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ชี้ว่าเป็นปัญหาทำให้ไม่สามารถจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบจาก คสช. และการใช้มาตรา 44 โดยว่าต้องกำหนดเงื่อนไขให้ชัด ว่าให้นับคะแนนใหม่เฉพาะการลงคะแนนไม่ถูกต้อง เที่ยงธรรม และต้องนับคะแนนจากองค์ประชุมเดิมเท่านั้น ไม่ควรเปิดให้มีการลงคะแนนเพิ่มเติม
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล อภิปรายยืนยันว่าไม่ควรมีการแก้ไขข้อบังคับข้อที่ 58 กรณีขอให้นับคะแนนและขานชื่อใหม่ เพราะเป็นหลักการที่ใช้มานานแล้ว และสอดคล้องกับข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายถึงข้อที่ 5 โดยควรเพิ่มข้อความเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลางของประธานที่ประชุม เพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
โดยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ย้ำถึงการปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลาง ซึ่งเหนือกว่าข้อบังคับก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และประธานสภาเกือบทุกคนที่ทำหน้าที่ก่อนตนเองก็วางตัวเป็นกลาง แม้จะไม่ทุกคนก็ตาม
นอกจากนี้ที่ประชุมรัฐสภายังเห็นชอบเรื่องด่วนที่คณะรัฐมนตรีเสนอ ได้แก่ พิธีสารแก้ไขเพิ่มเติมความตกลงว่าด้วยการลงทุนอาเซียนฉบับที่ 4 , พิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงินฉบับที่ 8 ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน , ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง โดยเป็นการพิจารณาหลักเกณฑ์และวิธีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องคดี , และร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐเกาหลีราชอาณาจักรไทย สหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
สำหรับการประชุมรัฐสภาครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่ใช้ห้องประชุมจันทรา อาคารรัฐสภาใหม่ ซึ่งถูกออกแบบมาเป็นห้องประชุมวุฒิสภา ไม่สามารถรองรับสมาชิกรัฐสภาได้ทั้ง 748 คน จึงให้สมาชิกส่วนหนึ่งนั่งประชุมบริเวณชั้น 4 ที่ใช้ต้อนรับคณะบุคคลเข้ามาเยี่ยมชมรัฐสภา และเสริมเก้าอี้อีก 250 ที่นั่ง เพื่อให้ครบจำนวน ส่วนการลงคะแนนครั้งนี้ ใช้เวลานานเกือบครึ่งชั่วโมง เนื่องจากเครื่องลงคะแนนไม่เพียงพอ ทำให้ต้องใช้การลงคะแนนในกระดาษสี ก่อนที่จะส่งให้เจ้าหน้าที่เก็บบัตรลงคะแนนไปนับ ทั้งนี้นายชวน ขออภัยในความไม่สะดวกของการลงคะแนน พร้อมระบุว่า อาจต้องลงคะแนนลักษณะนี้ไปอีกระยะเนื่องจากการก่อสร้างรัฐสภายังไม่แล้วเสร็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมยังพบมีเก้าอี้หลายตัวที่สมาชิกนั่งร่วมประชุมมีสภาพชำรุด ขาหัก ไม่สามารถใช้งานได้ด้วย