นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญ กิจการวุฒิสภา เปิดเผยผลประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในวันอังคารที่ 24 ธันวาคม 2562 เวลา 10.00 น. ซึ่งจะใช้ห้องประชุมวุฒิสภา หรือห้องพระจันทรา เป็นสถานที่จัดการประชุม โดยในวันดังกล่าวจะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องคดี ที่ส่งเสริมให้มีระบบการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องคดี เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ที่มีกรณีพิพาททางแพ่งใช้เป็นช่องทางในการยุติข้อพิพาทก่อนที่จะมีการฟ้องคดี ทำให้ข้อพิพาททางแพ่งสามารถยุติลงได้ในเวลาอันรวดเร็ว
นอกจากนี้ จะมีการพิจารณาร่างบังคับการประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณารับหลักการและตั้งคณะกรรมาธิการฯ พิธีสารแก้ไขเพิ่มเติมความตกลงว่าด้วยการลงทุนอาเซียนฉบับที่ 4 พิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน ฉบับที่ 8 ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน เพื่อลด หรือยกเลิกข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคต่อการค้าบริการภายใต้กรอบอาเซียน รวมถึงการพิจารณาความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐเกาหลี ราชอาณาจักรไทย สหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งความตกลงฉบับดังกล่าวเป็นการลงนามร่วมกันในร่างความตกลงว่าด้วยการกำหนดปริมาณโควตารายประเทศ สำหรับการนำเข้าข้าวมายังสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งมีผลประโยชน์กับประเทศไทย ที่จะได้รับการจัดสรรปริมาณโควตาจากสาธารณรัฐเกาหลี และจะช่วยรักษาตลาดข้าวของไทยในสาธารณรัฐเกาหลีได้ในระยะยาว
นอกจากนี้ จะมีการพิจารณาร่างบังคับการประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณารับหลักการและตั้งคณะกรรมาธิการฯ พิธีสารแก้ไขเพิ่มเติมความตกลงว่าด้วยการลงทุนอาเซียนฉบับที่ 4 พิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน ฉบับที่ 8 ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน เพื่อลด หรือยกเลิกข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคต่อการค้าบริการภายใต้กรอบอาเซียน รวมถึงการพิจารณาความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐเกาหลี ราชอาณาจักรไทย สหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งความตกลงฉบับดังกล่าวเป็นการลงนามร่วมกันในร่างความตกลงว่าด้วยการกำหนดปริมาณโควตารายประเทศ สำหรับการนำเข้าข้าวมายังสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งมีผลประโยชน์กับประเทศไทย ที่จะได้รับการจัดสรรปริมาณโควตาจากสาธารณรัฐเกาหลี และจะช่วยรักษาตลาดข้าวของไทยในสาธารณรัฐเกาหลีได้ในระยะยาว