ปธ.กกต. พอใจภาพรวมเลือกตั้งเขต 7 ขอนแก่น ที่แข่งเข้มข้น รับสอบเบื้องต้นไม่พบกำนันช่วยผู้สูงอายุลงคะแนนผิดตามที่กล่าวหา ขอเวลาสอบละเอียด ผิดโทษ 2 เท่า รับแปลกภาพโต๊ะทำงานกำนันมีธงเบอร์ แต่ไม่อยากให้สังคมรีบตัดสิน จนกว่าข้อมูลชัดเจน
วันนี้ (22ธ.ค.) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. กล่าวภายหลังการปิดหน่วยลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.เขต 7 จ.ขอนแก่นแทนตำแหน่งที่ว่าง ว่า จากที่สังเกตการณ์ลงคะแนน ใน 34 หน่วยเลือกตั้ง เพราะว่าเจ้าหน้าที่ทำงานกันอย่างเต็มที่ การแข่งขันมีความเข้มข้นแต่ การจัดการเลือกตั้งในทุกหน่วย เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ในภาพรวมจึงพอใจกับการจัดเลือกตั้งในครั้งนี้ ส่วนของรายงานการทุจริตเลือกตั้งขณะนี้ทราบเบื้องต้นมีของผู้ตรวจการเลือกตั้ง 2 เรื่องทางสำนักงานกกตจังหวัดขอนแก่นกำลังตรวจสอบมูลกรณีว่าเป็นอย่างไร โดยเป็นกรณีที่ร้องเรียนว่ามีการฝ่าฝืนมาตรา 73(1)ของพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ให้เงิน ทรัพย์สินจูงใจเพื่อให้ลงคะแนน
ส่วนที่มีการแจ้งความว่ากำนันซึ่งทำหน้าที่กรรมการประจำหน่วยช่วยผู้สูงอายุลงคะแนนแล้วก็ กากบาทไม่ตรงกับความต้องการของผู้สูงอายุคนดังกล่าวนั้น สำนักงานกกตขอนแก่นได้ตรวจสอบเบื้องต้น ฟังคำให้การของพยานในที่เกิดเหตุ แล้วได้ข้อเท็จจริงว่า กรรมการประจำหน่วยไม่ได้มีการดำเนินการอย่างที่มีการแจ้งความ แต่ทางนี้ก็ต้องมีการตรวจสอบต่อไปคิดว่าคงใช้เวลาไม่นาน สำหรับที่มีการเรียกร้องให้มีการย้ายกำนัน คนดังกล่าวออกจากพื้นที่ปกติก็จะพิจารณาข้อเสนอแนะตามคำร้อง ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่กระทำผิดก็ต้องได้รับโทษแต่เราคงไม่สามารถที่จะไปดำเนินการอะไร ได้ทันทีเพียงเพราะแค่ได้รับฟังมา
เมื่อถามต่อว่าทางพรรคเพื่อไทยร้องว่าไปพบเอกสารแนะนำตัว ผู้สมัคร หมายเลข 2 บนโต๊ะ ทำงานของกำนัน นายสิทธิพรกล่าวว่าตนก็เห็นภาพนั้นและรู้สึกแปลกใจซึ่งกกตขอนแก่นก็จะได้มีการสอบถามเพื่อให้ได้ข้อมูลเบื้องต้นคิดว่าไม่นาน อย่างช้าอาจเป็นวันพรุ่งนี้ผอ. กกตประจำจังหวัดขอนแก่นคงให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ ตนไม่อยากพูดไปก่อนโดยไม่ทราบข้อเท็จจริงเพราะจะเหมือนเป็นการไปกล่าวหาหรือแก้ต่าง จึงอยากให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจนก่อน และไม่อยากให้สังคมรีบตัดสินว่าเจ้าหน้าที่ มีความไม่เป็นกลาง ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ทำผิดจริงก็ต้องมีความผิดเป็น 2 เท่า
ประธานกกต.ยังกล่าวถึง กระแสข่าวที่ระบุว่ามีการฉีกบัตรเกิดขึ้นว่าข้อเท็จจริงที่ได้รับรายงานไม่ใช่การฉีกบัตรเท่าที่ทราบผู้มีสิทธิ์ คนดังกล่าวหลังจากลงคะแนนพยายามจะพับบัตรใส่ในหีบ แต่บัตร ยังไม่เรียบร้อยก็พยายามกรีดจึงทำให้เกิดการฉีกขาด จึงต้องดูเจตนาเป็นหลักซึ่งหลายคนในบริเวณนั้นก็เห็นว่าไม่ใช่การจงใจฉีกบัตร
