ส.ส.กทม.พปชร.เผยเตรียมชงคดี “สมคิด เดอะริปเปอร์” เข้าอนุ กมธ.ยุติธรรม หลังกรมราชทัณฑ์พลาด ปล่อยฆาตกรต่อเนื่องจนก่อเหตุซ้ำ งงฆ่า 5 ศพ ติดคุกแค่ 14 ปี บี้ตั้ง กก.สอบใครพลาด ชี้ต้องมีมาตรการป้องกันไม่ให้นักโทษอุกฉกรรจ์ลดโทษเร็ว
วันนี้ (17 ธ.ค.) นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการการศึกษาการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีการกระทำผิดซ้ำของฆาตกรต่อเนื่อง นายสมคิด พุ่มพวง หรือสมคิด เดอะริปเปอร์ หลังได้รับการปล่อยตัวจากกรมราชทัณฑ์ว่า จะนำปัญหากระบวนการกลั่นกรองเพื่อพิจารณาลดโทษของกรมราชทัณฑ์เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม โดยเห็นว่าควรต้องมีการสังคายนาครั้งใหญ่เพื่อไม่ให้เกิดการลดโทษผิด ปล่อยตัวพลาดจนนำไปสู่โศกนาฏกรรมเหมือนที่เกิดขึ้นกับเหยื่อรายล่าสุด ทั้งนี้ ตนเห็นว่านักโทษที่ก่อคดีอุกฉกรรจ์ซึ่งศาลตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต ควรมีมาตรการพิจารณาลดโทษที่เข้มงวดกว่านักโทษปกติ ไม่เช่นนั้นจากโทษประหารชีวิต ติดคุกไม่กี่ปีก็ได้ออกมาใช้ชีวิตปกติแล้ว เช่นกรณีนายสมคิดฆ่าคนไปถึง 5 ราย ศาลตัดสินจำคุกทั้ง 5 คดี แต่กลับติดคุกเพียง 14 ปี และเมื่อพ้นโทษยังก่อเหตุสะเทือนขวัญซ้ำอีก ถือเป็นอุทาหรณ์ที่กรมราชทัณฑ์ต้องปรับปรุงกระบวนการพิจารณาลดโทษโดยด่วน
“ผมจะเสนอที่ประชุมให้พิจารณากระบวนการลดโทษของกรมราชทัณฑ์ทั้งหมด ไม่ใช่ตั้งเกณฑ์หลวมๆ ว่าถ้าประพฤติดีในเรือนจำแล้วต้องได้ลดโทษเท่ากัน แต่ควรมีหลักเกณฑ์ที่เข้มข้นสำหรับจำเลยที่ก่อคดีอุกฉกรรจ์ รวมถึงการนับโทษในแต่ละคดีที่จำเลยกระทำผิดหลายกรรมหลายวาระ ไม่ควรนับแบบเหมารวมจนทำให้ได้รับการลดโทษอย่างรวดเร็ว แต่ต้องให้ได้รับโทษที่เหมาะสมกับการกระทำความผิด สิ่งเหล่านี้ต้องลงในรายละเอียดเพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์การพิจารณาใหม่ และในกรณีของนายสมคิดต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยว่ากระบวนการพิจารณามีตรงไหนที่ผิดพลาดหรือไม่ ไม่ควรจบแค่คำขอโทษของ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์เท่านั้น แต่ส่วนไหนที่ย่อหย่อนผิดพลาดต้องรับผิดชอบด้วย” นายสิระกล่าว
นายสิระกล่าวต่อว่า คำพิพากษาของศาลเล็งเห็นว่าพฤติกรรมของนายสมคิดมีการกระทำผิดซ้ำซาก จึงตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต การที่กรมราชทัณฑ์ไปลงหย่อนให้นายสมคิดถือว่าเป็นเรื่องที่ย้อนแย้งต่อเจตนารมณ์ของศาลหรือไม่ จากนี้ไปกรมราชทัณฑ์ควรที่จะพิจารณาประเด็นนี้ให้รอบคอบ เพราะเมื่อเกิดความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในสังคม มันไม่สามารถหาสิ่งอื่นมาทดแทนได้