คาดชงขอ “บิ๊กป้อม” 226 ล้าน แจกเงินให้กำลังใจทัพนักกีฬาซีเกมส์มะนิลา แม้ผลงานจบแค่อันดับสาม แต่กวาดเหรียญรวมกว่า 318 เหรียญ เหรียญทอง 3 แสน เหรียญเงิน 1.5 แสน เหรียญทองแดง 7.5 หมื่น คาดกรีฑาที่กวาด 12 เหรียญ ได้เงินกว่า 18 ล้าน
วันนี้ (12 ธ.ค.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เตรียมเสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตรปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เพื่อพิจารณาอนุมัติเงินรางวัลสำหรับนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬา จากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์
หลังจากทัพนักกีฬาไทยทำผลงานในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยการจบอันดับ 3 โดยคว้าไปทั้งสิ้น จำนวน 92 เหรียญทอง 103 เหรียญเงิน 123 เหรียญทองแดง
ล่าสุด เพจเฟซบุ๊กกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้คำนวณเงินรางวัลสำหรับนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัลดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของกองทุนฯ ดังนี้ เหรียญทอง 300,000 บาท, เหรียญเงิน 150,000 บาท และเหรียญทองแดง 75,000 บาท
โดยผู้ฝึกสอนประเภทบุคคลได้รับเงินรางวัลร้อยละ 20 ของเงินรางวัลที่นักกีฬาทั้งหมดได้รับ
ผู้ฝึกสอนประเภททีมที่มีนักกีฬา 7 คนขึ้นไป ได้รับเงินรางวัลร้อยละ 10 ของเงินรางวัลทั้งหมดที่นักกีฬาได้รับ
ขณะที่สมาคมกีฬาได้รับเงินรางวัลร้อยละ 30 ของเงินรางวัลที่นักกีฬาทั้งหมดได้รับ แต่ไม่เกินวงเงิน 6,000,000 บาท
สำหรับซีเกมส์ครั้งนี้มียอดรวมทั้งหมดที่นักกีฬา, ผู้ฝึกสอนและสมาคมกีฬา จะได้รับจำนวนทั้งสิ้น 226,150,500 บาท แบ่งเป็นนักกีฬา จำนวน 155,625,000 บาท, สมาคม จำนวน 46,215,000 บาท และผู้ฝึกสอน จำนวน 24,160,500 บาท
สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ที่คว้าเหรียญรางวัลมากที่สุด จำนวน 12 เหรียญทอง 11 เหรียญเงิน 12 เหรียญทองแดง ได้รับเงินรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 18,225,000 บาท
สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย 7 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 6 เหรียญทองแดง ได้รับเงินรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 5,962,500 บาท
สมาคมกีฬายูโดแห่งประเทศไทย 7 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง ได้รับเงินรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 8,887,500 บาท
สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย 6 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง ได้รับเงินรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 6,525,000 บาท
สมาคมกีฬามวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย 5 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง ได้รับเงินรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 2,925,000 บาท
สมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย 5 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง ได้รับเงินรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 5,175,000 บาท
สมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย 4 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน ได้รับเงินรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 2,475,000 บาท
สมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย 3 เหรียญทอง ได้รับเงินรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 9,390,000 บาท
สมาคมกีฬาคาราเต้แห่งประเทไทย 3 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง ได้รับเงินรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 2,587,500 บาท
สมาคมกีฬายิงธนูแห่งประเทศไทย 3 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง ได้รับเงินรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 3,150,000 บาท
สมาคมกีฬาเอ็กซ์ตรีมแห่งประเทศไทย 3 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง ได้รับเงินรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 3,937,500 บาท
ชนิดกีฬายิงปืน 3 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง ได้รับเงินรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 1,530,000 บาท
สมาคมกีฬาคูราชแห่งประเทศไทย 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง ได้รับเงินรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 1,800,000 บาท
สมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน ได้รับเงินรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 3,600,000 บาท
สมาคมกีฬาฟันดาบแห่งประเทศไทย 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 5 เหรียญทองแดง ได้รับเงินรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 5,062,500 บาท
สมาคมกีฬาฟิกเกอร์และสปีดสเก็ตติ้งแห่งประเทศไทย 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง ได้รับเงินรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 2,025,000 บาท
สมาคมกีฬายูยิตสูแห่งประเทศไทย 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 6 เหรียญทองแดง ได้รับเงินรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 2,025,000 บาท
สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง ได้รับเงินรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 10,050,000 บาท
สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย 2 เหรียญทอง 9 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง ได้รับเงินรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 11,200,500 บาท
สมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน ได้รับเงินรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 4,725,000 บาท
โดยสมาคมกีฬาเรือพายแห่งประเทศไทย ที่คว้า 2 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน 5 เหรียญทองแดง เป็นสมาคมกีฬาที่คว้าเงินรางวัลมากที่สุด จำนวน 26,137,500 บาท
นอกจากนี้ยังมีสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย ได้รับเงินรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 2,250,000 บาท
สมาคมกีฬาไตรกีฬา 2,137,500 บาท
สมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิส 1,687,500 บาท
สมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทย 10,080,000 บาท
สมาคมกีฬาฮอกกี้ 17,640,000 บาท
สมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง 9,000,000 บาท
สมาคมกีฬาแบดมินตัน 6,495,000 บาท
สมาคมกีฬาบิลเลียด 675,000 บาท
สมาคมกีฬาบาสเกตบอล 5,940,000 บาท
สมาคมกีฬาเบสบอล 5,040,000 บาท
สมาคมกีฬาฟุตบอล 4,200,000 บาท
สมาคมกีฬาโบว์ลิ่ง 1,125,000 บาท
สมาคมกีฬาปัญจกีฬา 1,575,000บาท
สมาคมกีฬาปันจักสีลัต 1,462,500 บาท
สมาคมกีฬาวินด์เซิร์ฟ 1,012,500 บาท
สมาคมกีฬายิมนาสติก 3,375,000 บาท
สมาคมกีฬาลีลาศ 2,925,000 บาท
สมาคมกีฬาซอฟท์เทนนิส 1,912,500 บาท
สมาคมกีฬาเทนนิส 1,462,500 บาท
สมาคมกีฬาเนตบอล 1,260,000 บาท
สมาคมกีฬามวยปล้ำ 1,575,000 บาท
สมาคมกีฬาลอนโบวล์ส 900,000 บาท
สมาคมกีฬาวูซู 450,000 บาท
สมาคมกีฬาสควอช 562,500 บาท
สมาคมกีฬายิงเป้าบิน 787,500 บาท
สมาคมกีฬากระดานโต้คลื่น 675,000 บาท
สมาคมกีฬาหมากรุกสากลแห่งประเทศไทย 450,000 บาท ซึ่งสมาคมกีฬาซอฟท์บอลเป็นเพียงสมาคมเดียวที่ไม่ได้รับเงินรางวัล
โดยกำหนดวันจัดงานแสดงความยินดีและมอบเงินรางวัลจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ
11 ธันวาคม 2562
ที่มา กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ
