กก.บห.พปชร. ยันรัฐบาล ไม่อุ้ม “ไวพจน์-ปารีณา” ชี้ ทุกอย่างยึดตามกฎหมาย ลั่นไม่มีคำสั่งพิเศษช่วยใครทั้งนั้น
วันนี้ (6 ธ.ค.) เมื่อเวลา 12.35 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจัทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สังคมมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภารัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรค พปชร. เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมา ในขณะที่ศาลฏีกาได้ออกหมายจับ จนถูกมองว่าให้ความช่วยเหลือกัน ว่า ไม่มีการช่วยเหลือกัน เพราะกรณีของ พ.ต.ท.ไวพจน์ ก็ทำตามขั้นตอนของเขา เมื่อเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็มาใช้สิทธิ ส่วนกรณีที่ถูกออกหมายจับก็ต้องรับผิดชอบไปตามกรอบกฎหมาย เมื่อศาลมีคำตัดสินก็ต้องปฏิบัติไปตามนั้น และในวันประชุมสภาฯ ก็ไม่ได้ออกเสียงโหวต
ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องพูดคุยหรือไม่กับ พล.ต.ท.ไวพจน์ ในการให้ความร่วมมือรกับตำรวจหรือไม่ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิของ พ.ต.ท.ไวพจน์ เราไม่ได้ไปก้าวก่าย คำตัดสินของศาล เพราะเราต้องเคารพ เช่นเดียวกับกรณี นายกรุงศรีวิไล ส.ส.สมุทรปราการ พปชร. เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่ให้หยุดการปฎิบัติหน้าที่ก็ต้องเคารพคำวินิจฉัย
ผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่เลขาธิการสำนักการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ทำหนังสืออย่างเป็นทางการให้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรค พปชร. คืนที่ดินจำนวน 682 ไร่ บริเวณฟาร์มไก่ ให้กับ ส.ป.ก.ภายใน 7 วัน หากไม่ยอมคืน จะใช้คำสั่งตาม ม.44 ยึดคืนทันที ทางพรรคจะพูดคุยเพื่อดำเนินการกับ น.ส.ปารีณา อย่างไร นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ขอยืนยันชัดเจนว่า รัฐบาลไม่ได้ยกเว้นคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษ แม้ว่าจะอยู่พรรคเดียวกัน หรือพรรคร่วมรัฐบาล โดยทุกอย่างว่าไปตามกฎหมาย และเชื่อว่ารัฐมนตรีหลายคนเดินหน้าทำตามภารกิจหน้าที่ที่รับผิดชอบ ใครผิดต้องดำเนินการ ไม่มีการช่วยเหลือ หรือมีการยกเว้น ขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาก็มีสิทธิที่จะใช้สิทธิในฐานะที่เป็นผู้เสียหาย ที่จะชี้แจงหรือดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ขอย้ำว่า ไม่มีคำสั่งพิเศษที่จะไปช่วยใครทั้งนั้น
อนึ่ง เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ ที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก.พร้อมผู้บริการระดับสูง ได้ร่วมแถลงข่าวกรณีการครอบครอบที่ในเขตปฎิรูปที่ดิน ที่ จ.ราชบุรี ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ โดย นายวิณะโรจน์ เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อต่างๆ กรณี น.ส.ปารีณา ครอบครองที่ดินโดยใช้หลักฐานเป็น ภบท.5 ในเขต ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี และที่ดินดังกล่าวตั้งอยู่ในเขต พ.ร.ฎ.กำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน จากกรณีดังกล่าว ส.ป.ก.จึงได้การดำเนินการตามกฎหมายปฏิรูปที่ดินและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยได้คำนึงถึงปฎิรูปที่ความถูกต้อง โปร่งใส และให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย โดยมีการตรวจสอบต่อเนื่องตามขั้นตอนอย่างละเอียดตั้งแต่วันที่ 14 - 15 พ.ย.62 ส.ป.ก.มอบหมายเจ้าหน้าที่สำนักกฎหมายและสำนักจัดการปฏิรูปที่ดิน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่และสอบถามผู้ปกครองท้องที่ (ขอบเขตในแผนที่) เกี่ยวกับการถือครองและทำประโยชน์ในที่ดินโดยลักษณะการทำประโยชน์ ได้แก่ เลี้ยงไก่ โค ปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์ โรงเรือน สระน้ำจากนั้นวันที่ 15 พ.ย.62 ส.ป.ก.ราชบุรี มีหนังสือแจ้งเกษตรกรผู้ได้รับอนุญาตฯ รายแปลง ในพื้นที่หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง เพื่อขอตรวจสอบการทำประโยชน์ในที่ดิน ซึ่งมีเกษตรกรมาให้ข้อมูล จำนวน 9 ราย จากทั้งหมด 14 ราย โดยเกษตรกรทั้ง 9 ราย ยังเป็นผู้ถือครองและทำประโยชน์ด้วยตนเอง
จนวันที่ 18 พ.ย.62 ส.ป.ก.มีคำสั่ง ที่ 1303/2562 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงการครอบครองทำประโยชน์ โครงการป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี หมายเลข 85 จ.ราชบุรี โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย สั่ง ณ วันที่ 18 พ.ย.62 โดยมี พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย รองเลขาธิการ ส.ป.ก.เป็นประธานคณะทำงานฯ มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีคำสั่ง (สิ้นสุดวันที่ 18 ธ.ค.62) ซึ่งวันที่ 19 พ.ย.62 ส.ป.ก.ราชบุรี มีหนังสือแจ้ง น.ส.ปารีณา ให้มาชี้แจงการถือครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ
ผลปรากฏว่า ไม่มีผู้รับ บ้านปิด ไปรษณีย์ไม่สามารถนำจ่ายได้ วันที่ 20 พ.ย.62 ส.ป.ก.ราชบุรี ได้ดำเนินการปักป้ายแสดงพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินบริเวณพื้นที่ของ ส.ป.ก.ในพื้นที่หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี วันที่ 22 พ.ย.62 ส.ป.ก.จัดประชุมคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงการครอบครองทำประโยชน์ โครงการป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี หมายเลข 85 จ.ราชบุรี โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายครั้งที่ 1/2562 ซึ่งมติประชุมเห็นชอบมอบหมายให้ ส.ป.ก.ราชบุรี ตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่เป้าหมาย กำหนดให้ ส.ป.ก.ราชบุรี รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงมายังคณะทำงานฯ ภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2562 เพื่อเสนอคณะทำงานฯ พิจารณาแนวทางการดำเนินงานในวันที่ 4 ธันวาคม 2562 โดยวันที่ 22 พ.ย.62 ส.ป.ก.ราชบุรี ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลการถือครอง น.ส.3 และ ส.ค.1 ในเขตปฏิรูปที่ดินฯ กับ สนง.ที่ดินจังหวัดราชบุรี สาขาจอมบึง โดย สนง.ที่ดินจังหวัดราชบุรี สาขาจอมบึง ได้ตรวจสอบตำแหน่งที่ดินตามหมายเลขสีแดงในแผนที่ ที่จัดส่งไปให้กับระวางรูปถ่ายทางอากาศ ชื่ออำเภอจอมบึง หมายเลข 4936III แผ่น 155 และระวางโฉนดที่ดิน (UTM) หมายเลข 4836 II 5498 ปรากฏว่าตำแหน่งที่ดินตามหมายเลขสีแดงยังไม่มีการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดินแต่อย่างใดจนวันที่ 24 พ.ย.62 ส.ป.ก.นำชี้แนวเขตตาม พ.ร.ฎ.ตามที่กรมป่าไม้ได้ดำเนินการตามหมายศาล
ต่อมา วันที่ 3 ธ.ค.62 ส.ป.ก.ราชบุรี ได้สรุปการตรวจสอบขอบเขตการครอบครองจากผู้ปกครองท้องที่และที่ดินแปลงข้างเคียง ซึ่งปรากฏพื้นที่ที่มีการครอบครองและทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน เนื้อที่รวม 682 ไร่ จากการตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่จากผู้ปกครองท้องที่และที่ดินแปลงข้างเคียงที่มีการทำประโยชน์ในที่ดิน สรุปได้ดังนี้ โดยที่ดินซึ่ง น.ส.ปารีณา ถือครองทำประโยชน์ เนื้อที่ 682 ไร่ เข้าครอบครองเมื่อประมาณปี 2548 - 2549 โดยได้รับมาจากบิดา (นายทวี ไกรคุปต์) ประกอบด้วย แปลง No.73 เนื้อที่ 417 ไร่ ใช้ประโยชน์ในการทำโรงเลี้ยงไก่ แปลง No.75 เนื้อที่ประมาณ 190 ไร่ และ แปลง CL.424 เนื้อที่ประมาณ 48 ไร่ ใช้ประโยชน์ในการเลี้ยงวัว ปลูกหญ้าเลี้ยงวัว และ แปลง No.74 เนื้อที่ประมาณ 27 ไร่ ใช้วางมูลไก่ ซึ่งที่ดินแปลงข้างเคียง ซึ่ง ส.ป.ก.ได้อนุญาตให้เข้าทำประโยชน์แล้ว รวม 14 ราย 15 แปลง เนื้อที่รวมประมาณ 491 ไร่ (ทิศเหนือ) และที่ดินแปลงย่อยบริเวณที่ติดถนนสายจอมบึง-ชัฏป่าหวาย ฝั่งตรงข้ามกับที่ดินที่ น.ส.ปารีณาฯ ถือครอง มีผู้ถือครองจำนวน 16 ราย 20 แปลง เนื้อที่ประมาณ 222 ไร่
นายวิณะโรจน์ เปิดเผยอีกว่า วันที่ 4 ธ.ค. 62 น.ส.ปารีณา มีหนังสือแจ้ง ส.ป.ก.ขอเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมวันที่ 4 ธ.ค.62 ส.ป.ก.ประชุมคณะทำงานฯ ครั้งที่ 2/2562 เพื่อพิจารณากำหนดแนวทางการดำเนินการตามกฎหมาย ส.ป.ก.พิจารณาแล้ว เห็นว่าจากการที่ น.ส.ปารีณา ขอเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมนั้น เมื่อ ส.ป.ก.ตรวจสอบคุณสมบัติบุคคลแล้ว ปรากฎว่า น.ส.ปารีณา มีสถานะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมการบริษัท ปารีณา ไกรคุปต์ จำกัด ซึ่งลงชื่อผูกพันบริษัทได้ จึงไม่ใช่เกษตรกรผู้มีสิทธิจะได้รับการจัดที่ดินจาก ส.ป.ก.ดังนั้น ส.ป.ก.จึงมีแนวทางการดำเนินการ โดย ส.ป.ก.จะแจ้งให้ น.ส.ปารีณา คืนที่ดินที่ครอบครองและทำประโยชน์ทั้งหมดให้ ส.ป.ก.นำมาดำเนินปฏิรูปที่ดิน ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ซึ่ง ส.ป.ก.จะนำที่ดินไปจัดให้แก่เกษตรกรตามนโยบายจัดที่ทำกินชุมชนของรัฐบาล (คทช.) ต่อไป ซึ่งหากครบกำหนดดังกล่าวแล้ว น.ส.ปารีณา ไม่ส่งคืนที่ดิน ส.ป.ก.จะใช้อำนาจตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 36/2559 เรื่อง มาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมโดยมิชอบกฎหมาย ซึ่ง ส.ป.ก.จะนำที่ดินไปจัดให้แก่เกษตรกรตามนโยบายจัดที่ทำกินชุมชนของรัฐบาล (คทช.) ต่อไป