นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี คู่สมรส ทำกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อมบริเวณท้องสนามหลวง เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ ขอคนไทยใช้โอกาสอันเป็นมงคลตั้งจิตอธิษฐานร่วมกันทำความดีเพื่อแผ่นดิน เปรยคิดถึงพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙
วันนี้ (5 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่บริเวณท้องสนามหลวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมภริยา และคณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อมและบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณว่า “เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ในวันนี้ ข้าพระพุทธเจ้า พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีและคู่สมรส ข้าราชการ และประชาชนจิตอาสา ที่ได้มาชุมนุมกันอย่างพร้อมเพรียงด้วยความจงรักภักดี ณ ที่แห่งนี้ ต่างร่วมใจกันจัดกิจกรรมจิตอาสาถวายพระราชกุศลเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาสุดมิได้”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตลอดรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระองค์ได้ทรงทุ่มเทกำลังพระวรกายและพระสติปัญญาปฏิบัติพระราชกรณียกิจนับเป็นอเนกประการเพื่อธำรงไว้ซึ่งประโยชน์สุขของเหล่าพสกนิกรทั่วราชอาณาจักร ทรงศึกษาศาสตร์แขนงต่างๆ อย่างถ่องแท้ และด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล ได้พระราชทานแนวทางในการแก้ไขปัญหาด้านต่างๆ ที่เป็นเหตุแห่งความทุกข์ยากของประชาราษฎร เช่น ด้านการสาธารณสุข การเกษตร ซึ่งรวมทั้งการพัฒนาทรัพยากรดินและน้ำให้มีความอุดมสมบูรณ์ พระราชทานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อให้เป็นรากฐานในการดำรงชีวิตและสร้างความผาสุกร่มเย็นแก่ปวงพสกนิกรทั่วราชอาณาจักร จวบจนรัชสมัยแห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปวงข้าพระพุทธเจ้าต่างประจักษ์และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่พระราชทาน “โครงการจิตอาสาพระราชทาน” โดยรัฐบาลได้น้อมนำแนวทางพระราชทานมาจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่ามีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมอันเป็นคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ ได้แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทิตา และถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
“ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงมีต่อเหล่าปวงชนชาวไทย ปวงข้าพระพุทธเจ้าขอสืบสานพระราชปณิธานด้วยความจงรักภักดี และขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล น้อมอาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากล ตลอดจนพระบรมเดชานุภาพแห่งบุรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ โปรดอภิบาลบันดาลดลให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงเจริญพร้อมจตุรพิธพรชัย ทรงพระเกษมสำราญ สถิตเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้าปวงข้าพระพุทธเจ้าและเหล่าพสกนิกรตราบกาลนิรันดร์ เทอญ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
จากนั้นนายกฯ ได้เยี่ยมชมพร้อมทดลองเครื่องตัดสับพืชสดเพื่อผลิตปุ๋ยหมัก เพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชนของสํานักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ก่อนจะทดลองทำปุ๋ยหมักผักตบชวาและทำน้ำหมักชีวภาพ โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ขอให้ทุกคนช่วยกันคนละไม้คนละมือ รวมทั้งสื่อก็ต้องมาช่วยกันจะได้รู้ว่าการทำงานยากขนาดไหน ขอให้สนใจอะไรที่เป็นรูปธรรมกันด้วย อย่าสนใจแต่กระพี้ ข้างนอกของต้นไม้คือกระพี้ ส่วนข้างในคือแก่น ถ้าสนใจแต่ข้างนอกก็ไม่รู้ว่าข้างในคืออะไร หากสนใจกันแต่กระพี้กันทุกวัน”
จากนั้นนายกฯ ได้ร่วมปลูกต้นมะขาม ลำดับที่ 3112s ก่อนรดน้ำต้นไม้และนำดินปุ๋ยบำรุงต้นไม้รอบท้องสนามหลวง
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันหน้าต้องไปสู่การเตรียมการรองรับ เพราะการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้กำลังเกิดขึ้นทั้งหมด ดังนั้นต้องเพิ่มพลังในการสร้างคนรุ่นใหม่ที่เป็นอนาคตของเราในศตวรรษที่ 21 สิ่งเหล่านี้ต้องพัฒนาไปด้วยกัน โดยต้องขอร้องขอให้ใช้โอกาสอันเป็นมงคล ไม่ว่าจะวันที่ 5 ธ.ค. หรือวันสำคัญอื่นๆก็ตาม อยากขอให้คนไทยทุกคนได้ตั้งจิตอธิษฐาน ร่วมกันทำความดีเพื่อแผ่นดิน และดำรงไว้ซึ่งความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ถ้าเราทำทุกอย่างนี้ได้ประเทศไทยก็จะไปข้างหน้าได้อีกเยอะ
ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับ นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมบูทกิจกรรมต่างๆ ของกระทรวงศึกษาธิการ เช่น การให้บริการศูนย์ซ่อมสร้าง การทดลองทางวิทยาศาสตร์ และชมการสาธิตการสกรีนเสื้อเป็นภาพคณะรัฐมนตรี โดยช่วงหนึ่งเด็กนักเรียนอาชีวะได้มอบเสื้อสกรีนภาพ พล.อ.ประยุทธ์ ทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์รับเสื้อและกางขึ้นมาดูก็ได้กล่าวพร้อมอมยิ้มว่า “ใครเนี่ย น่าเกลียดเชียว”
จากนั้นนายกฯ ได้แวะชมบูท 4 ภาคและทักทายประชาชนพร้อมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกอย่างเป็นกันเอง พร้อมทักทายผู้สูงอายุและสวมกอด โดยผู้สูงอายุได้อวยพรให้นายกรัฐมนตรีอายุมั่นขวัญยืนและอยู่ไปนานๆ
ขณะที่ก่อนขึ้นรถกลับ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเปรยขึ้นว่า “คิดถึงพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙”