มาแปลก “โบว์” ณัฏฐา มหัทธนา นักเคลื่อนไหว ขวัญใจ “เสี่ยไก่” กล้าพูด สังคมและนักวิชาการไม่ปกป้อง “โอ๊ค” ปล่อยคนรวยถูกรังแก เป็นความอยุติธรรมอย่างหนึ่ง
วันนี้(25 พ.ย.62) ภายหลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางพิพากษาให้ยกฟ้อง นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นายทักษิณ ชินว้าตร ไม่ผิดฐานฟอกเงิน
เฟซบุ๊ก Bow Nuttaa Mahattana ของ นางสาวณัฏฐา มหัทธนา หรือ “โบว์” ก็ออกมาโพสต์ข้อความทันควัน
โดยระบุว่า มันจะเอาผิดยังไงหละ .. ถ้าการได้รับเช็ค(คืนเงินไปแล้วด้วย)จากใครสักคนที่มีพ่อทำธุรกิจอสังหาฯแล้วไปได้เงินกู้ที่ผิดกฎหมายมา(ซึ่งใครจะไปรู้ว่าคนอื่นมันมีวิธีทำมาหากินยังไงเอาเงินจากไหนมาจ่ายเรา) แล้วถูกหาว่าฟอกเงิน อีกหน่อยใครมาซื้ออะไรจากเราเราต้องถามเค้ามั้ยว่าคุณไปกู้เงินกรุงไทยมารึเปล่าคะ? .. และอย่าลืมว่า ยังมีอีกหลายๆคน (รวมรัฐบุรุษคนนั้นด้วย) ที่ก็ได้รับเงินบริจาคจากที่เดียวกันแถมไม่ได้เอาไปคืน แต่ไม่ถูกตั้งข้อหาใดๆ
การที่คุณพานทองแท้ต้องถูกดำเนินคดีนี้จึงเป็นเรื่องที่ไม่สุจริตมาแต่ต้น และน่าเห็นใจมากที่สังคมและนักวิชาการก็แทบไม่มีใครออกมาปกป้อง คือเรามักคิดว่า ถ้าใครรวยหน่อย จะโดนรังแกยังไงก็ช่างมันเหอะ .. ซึ่งนั่นแหละ “ความอยุติธรรม”
ทั้งนี้ นายพานทองแท้ หรือโอ๊ค ถูกฟ้องคดีฟอกเงิน ทุจริตการปล่อยสินเชื่อของธนาคารกรุงไทยฯ ให้ธุรกิจเครือกฤษดามหานคร คดีหมายเลขดำที่ อท.245/2561 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5, 9, 60 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 มาตรา 10 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91
โดย ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางพิพากษาให้ยกฟ้องนายพานทองแท้ ไม่ผิดฐานฟอกเงิน เนื่องจากเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ยังไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่านายพานทองแท้จำเลยได้รู้ที่มาของเงินจำนวน 10 ล้านบาท ที่นายวิชัย กฤษดาธานนท์ โอนเข้าบัญชีว่านายวิชัยได้มาจากการกระทำผิดทุจริตการปล่อยกู้แบงก์กรุงไทย
โดยขณะที่รับโอนเงินนั้นจำเลยมีอายุเพียง 26 ปี และขณะนั้นมีเงินรายได้จากหุ้นในบริษัทอยู่แล้วถึง 4,000 ล้านบาทเมื่อเทียบกับเงิน 10 ล้านบาทแล้วคิดเป็น 0.00 25 เปอร์เซ็นต์จากยอดเงินดังกล่าว ขณะที่โจทก์นำสืบได้เพียงว่าขณะที่รับโอนหุ้นในพานทองแท้เป็นบุตรชายของนายทักษิณ ชินวัตร และมีความสนิทสนมกับครอบครัวของนายวิชัยเพียงเท่านั้น
สำหรับ 'โบว์' เคยมีกระแสข่าวความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ 'เสี่ยไก่'นายวัฒนา เมืองสุข นักการเมืองชื่อดังจากพรรคเพื่อไทย และมีคลิปฉาว เกิดขึ้น
กระทั่ง วันที่ 24 ธ.ค.61 "โบว์" ณัฏฐา แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ก็เปิดใจผ่านรายการ Voice TV - Wake Up News ช่วงหนึ่งว่า สาเหตุที่คบหากันแล้วไม่ได้บอกใคร เพราะไม่อยากให้โยงว่าพรรคการเมืองหนุนหลัง ตอนไปกินข้าวก็ไม่ได้ปิดบัง แต่ไม่ได้บอกใครว่าคบกัน เนื่องจากไม่ใช่เรื่องที่ต้องบอก
"แต่พอมีเรื่องนี้เกิดขึ้น หลายคนบอกว่า แต่งงานกันเลยดีไหม ไม่มีใครถามว่าอยากแต่งงานใหม่อีกหรือไม่ อย่าอินถึงขั้นแต่งงานกันเลย ตนต้องการมีความรักที่ยังมีความรักให้แก่กัน เวลาเดินจากกัน จะได้จากกันได้ด้วยดี เมื่อความรักเปลี่ยนไปแล้วถ้าแต่งงาน ต้องทนอยู่ด้วยกันแม้ความรักหายไปแล้ว"
นอกจากนี้ โลกโซเชียลฮือฮาอีกครั้ง เมื่อ “โบว์” เปิดให้ชาวเน็ตถามคำถามอะไรก็ได้กับตน(21 ก.พ.) ชาวเน็ตคนหนึ่งจึงเข้าไปถามว่าเธอเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ นายวัฒนา เมืองสุข นักการเมืองชื่อดังจากพรรคเพื่อไทย จริงหรือไม่ เหตุนี้ทำให้นางสาวณัฏฐา ไม่รอช้าและตอบทันทีว่า “จริงค่ะ” (Sanook.com 22 ก.พ. 62) จบข่าว!!!
ถามว่า “โบว์” ณัฏฐา คือใคร ตามประวัติ เธอเป็นนักเคลื่อนไหวไฟแรงด้านสิทธิมนุษยชน จบการศึกษามัธยมชั้นมัธยมต้นจากโรงเรียนสาธิตปทุมวัน และชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จากนั้นเข้าศึกษาต่อที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จบคณะอักษรศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ
แรกเริ่มวัยทำงานของเธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับแวดวงการเมือง หรือนักเคลื่อนไหวแต่อย่างใด โดยเลือกทำงานสื่อมวลชนกับสถานีทีวีช่องหนึ่ง ก่อนจะผันตัวมาเป็นพิธีกรอิสระ และครูสอนภาษาอังกฤษ
ส่วนการเป็นนักเคลื่อนไหว เริ่มเมื่อครั้งรัฐประหาร 2557 จากการไปร่วมเล่นดนตรีเปิดหมวก “ตีขิม” ช่วยนักโทษการเมือง ณ ถนนข้าวสาร
และเป็นที่รู้จักมากขึ้น เมื่อทำกิจกรรมในนาม กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง “MBK39” กรณีชุมนุมที่สกายวอล์กหน้าห้างมาบุญครอง จนถูกตั้ง 2 ข้อหา ร่วมกับแกนนำอีก 9 คน ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ห้ามชุมนุมหรือมั่วสุมการเมืองเกินกว่า 5 คนขึ้นไป และกระทำการยุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ฯลฯ
นอกจากนี้ “โบว์” ยังเป็นนักกิจกรรมการเคลื่อนไหวด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชน และเข้าไปมีชื่อในประเด็นร้อน “การประหารชีวิตนักโทษในไทยยังควรมีอยู่หรือไม่” (BRIGHT Today 22 มิถุนายน 2561)
ส่วนการออกมาโพสต์เฟซบุ๊กของ “โบว์” เห็นได้ชัดว่า ยังมีมุมมองของความเป็นเหตุเป็นผล น้อยกว่าอารมณ์และความรู้สึกที่อยากแสดงออก และยึดมั่นในความเชื่อมั่นของตนเอง จนทำให้กลายเป็นมุมมองที่เอียงข้างอย่างเห็นได้ชัด และก็ไม่แปลก เพราะเธอมีความใกล้ชิดกับฝ่ายใด อยู่แล้ว