xs
xsm
sm
md
lg

"ประวิตร" ปิดประชุมรมว.กห.อาเซียน-ประเทศคู่เจรจา ชมเสริมความมั่นคงภูมิภาค

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
"บิ๊กป้อม" รับมอบหมายนายกฯ เป็นปธ.ปิดฉากประชุมรมว.กห.อาเซียนกับรมว.กห.ประเทศคู่เจรจา ครั้งที่ 6 ชื่นชมชาติสมาชิกเป็นแกนกลางของอาเซียนเสริมสร้างความมั่นคงของภูมิภาค เตรียมส่งไม้ต่อเวียดนาม เป็นเจ้าภาพปี 2563

วันนี้ (18พ.ย.) เวลา 14.30 น. ที่โรงแรมอวานี ริเวอร์ไซด์ กทม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มอบหมายให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมรมว.กลาโหมอาเซียนกับรมว.กลาโหมประเทศคู่เจรจา ครั้งที่ 6 หรือ ADMM Plus โดยมี รมว.กลาโหมอาเซียน 10 ประเทศเข้าร่วม

พล.อ.ประวิตร กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า ตนรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯให้มาเป็นประธานในที่ประชุมครั้งนี้ ในนามกระทรวงกลาโหมขอต้อนรับรมว.กลาโหมอาเซียน และรมว.กลาโหมประเทศคู่เจรจา เลขาธิการอาเซียน และคณะผู้แทนทุกคนในโอกาสเข้าร่วมประชุม ก่อนอื่นขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นฮากิบิสที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ขอเป็นกำลังใจให้ประชาชนชาวญี่ปุ่นสามารถผ่านห้วงเวลายากลำบากนี้ไปได้ด้วยดี และในโอกาสนี้ขอแสดงความยินดีกับการเข้าดำรงตำแหน่งรมว.กลาโหมของอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น และสหรัฐฯในปีนี้ ในนามของประเทศไทยขอขอบคุณประเทศสมาชิกอาเซียน และประเทศคู่เจรจา สำนักงานเลขาธิการอาเซียนที่ให้การสนับสนุนไทยเป็นประธานการประชุมอาเซียน และการประชุมรมว.กลาโหมอาเซียนและรมว.กลาโหมประเทศคู่เจรจาในปีนี้เป็นอย่างดี โดยจะเห็นได้จากผลสำเร็จของการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการประชุมในกรอบของรมว.กลาโหมอาเซียนและรมว.กลาโหมประเทศคู่เจรจา ตนขอชื่นชมทุกประเทศที่ร่วมมือขับเคลื่อนความร่วมมือด้วยความมั่นคงในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง เป็นแกนกลางของอาเซียนเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของภูมิภาคให้มีความยั่งยืน

จากนั้นเพล.อ.รักศักดิ์ โรจน์พิมพ์พันธุ์ ผอ.สำนักนโยบายและแผนกลาโหม (ผอ.สนผ.) เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์ร่วมของรมว.กลาโหมอาเซียนกับรมว.กลาโหมประเทศคู่เจรจาว่าด้วยการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความมั่นคงที่ยั่งยืนว่า การประชุมครั้งนี้ได้ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองด้านความมั่นคงในภูมิภาค โดยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความไว้เนื้อเชื่อใจ และการเสริมสร้างความร่วมมือของคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมในการตอบสนองต่อภัยคุกคามด้านความมั่นคงของภูมิภาคอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังได้รับทราบผลการจับคู่เป็นประธานร่วมของคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญฉพาะด้านในวงรอบปี 2563-2566 ซึ่งมีกระทวงกลาโหมและกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เป็นประธานร่วมในคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงทางทะเล และให้การรับรองแถลงการณ์ร่วมของรมว.กลาโหมอาเซียนกับรมว.กลาโหมประเทศคู่เจรจาว่าด้วยการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความมั่นคงที่ยั่งยืน

พล.อ.รักศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในห้วงการประชุมฯ พล.อ.ประวิตร ได้ร่วมหารือทวิภาคีกับประเทศสมาชิก และเข้าร่วมการประชุมรมว.กลาโหมอาเซียนบวกหนึ่งอย่างไม่เป็นทางการหรือ ADMM+1 Informal Meeting กับสาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น สหพันธรัฐรัสเซียและสหรัฐฯ นอกจากนี้รมว.กลาโหมประเทศสมาชิก ได้เข้าร่วมพิธีเปิดและเยี่ยมชมงาน Defense & Securty 2019 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี รวมทั้งได้เดินทางเข้าเยี่ยมคำนับพล.อ. ประยุทธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมประเทศสมาชิกที่สนับสนุนการทำหน้าที่ประธานอาเซียนของไทยที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ภายใต้แนวคิดหลัก "ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน"เพื่อเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนของความร่วมมือ ทั้งภายใน และภายนอกอาเซียนให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ให้อาเซียนเป็นประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

“ในโอกาสการเดินทางมาเข้าร่วมประชุมฯ ของรมว.กลาโหมประเทศสมาชิก พล.อ.ประยุทธ์ ได้ร่วมลงนามเอกสารความร่วมมือกับประเทศสมาชิก จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงกลาโหมกับกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นว่าด้วยความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนทางทหาร แถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมระหว่างไทย -สหรัฐฯ ค.ศ. 2020 ว่าด้วยการเป็นพันธมิตรด้านการป้องกันประเทศ และบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงกลาโหมกับกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ ทั้งนี้ภายหลังการประชุม ADMM-Plus ครั้งที่ 6ได้มีพิธีส่งมอบประธานการประชุม ADMM ในปี 2563ให้กับกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

โดยพล.อ.ประวิตรได้กล่าวชื่นชมประเทศสมาชิกและเลขาธิการอาเซียนที่ให้การสนับสนุนการเป็นประธาน ADMM และ ADMM-Plนs ของกระทรวงกลาโหมและการเป็นประธานอาเซียนของประทศไทยในปี 2562 เป็นอย่างดี โดยกระทรวงกลาโหมพร้อมให้การสนับสนุนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และประเทศสมาชิกอาเซียน อย่างเต็มขีดความสามารถ อย่างไรก็ตามผลสำเร็จของการประชุมฯ และการเป็นประธาน ADMM และ ADMM-Plusในปีนี้ เป็นการแสดงศักยภาพและบทบาทนำในเวทีด้านความมั่นคงที่สำคัญของภูมิภาคของกระทรวงกลาโหมให้เป็นที่ประจักษ์ เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือด้านความมั่นคงของภูมิภาคให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนในการดำรงไว้ซึ่งสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงของอาเซียน ที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตภายใต้แนวคิดร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน" ผอ.สนผ. กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น