“ประวิตร” ลงพื้นที่ตรวจราชการเมืองกาญจน์ ลั่นต้องไม่มีปัญหาค้ามนุษย์เด็ดขาด ตีกลับวันแมปให้จังหวัดพิจารณาอีกครั้ง เหตุยังมีปัญหาทับซ้อน ย้ำเฝ้าระวังไม่ให้เกิดไฟไหม้ป่า
วันนี้ (11 พ.ย.) เวลา 09.00 น. ที่ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดกาญจนบุรี ก่อนจะเป็นประธานรับฟังการบรรยายสรุปด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยความมั่นคง และการปฏิบัติงานที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า อยากให้ดูเรื่องเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานที่ไป-กลับ และหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนม่าในพื้นที่ไม่ให้มีการค้ามนุษย์โดยเด็ดขาด ขณะที่ปัญหาเรื่องน้ำจังหวัดกาญจนบุรีไม่มีปัญหาเรื่องนี้ เพราะมีแหล่งกักเก็บน้ำเยอะ และมีเขื่อนขนาดใหญ่ รวมถึงจะต้องมีการนำน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ไปช่วย โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) จะต้องรับเรื่องนี้ไปดูแลว่าจะทำอย่างไรเพื่อจะกระจายน้ำไปทางภาคตะวันออกให้ได้ เพื่อให้จังหวัดกาญจนบุรีมีน้ำใช้อย่างทั่วถึง และโครงการระบายน้ำจะต้องมีในทุกพื้นที่เท่าเทียมกัน โดยจะต้องทำโครงการ อาจจะต้องผ่านพื้นที่อุทยาน จึงขอให้รีบทำและเร่งประสานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
พล.อ.ประวิตรกล่าวต่อว่า ขณะที่ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกิดจากการเผาอ้อยก่อนตัด ขอให้นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ลองไปคิดดู โดยให้นำเศษอ้อยไปทำพลังงานไฟฟ้าเพื่อทดแทนการเผา ขณะที่เรื่องแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1:4,000 (วันแมป) ของจังหวัดกาญจนบุรียังไม่สามารถประกาศใช้ได้ เพราะยังมีปัญหาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนอีกเป็นจำนวนมาก จึงจะให้นำกลับมาทบทวนอีกครั้ง เพราะเราทำไป 4 ปีแล้วยังไม่สำเร็จ เมื่อประกาศไปก็จะทำให้เจ้าของพื้นที่จะมาชนกัน จึงต้องให้ทางจังหวัดพิจารณาใหม่เพื่อให้รอบคอบอีกครั้ง
“ผมขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับทุกส่วนราชการของจังหวัดกาญจนบุรีที่เป็นหนึ่งเดียวกัน ร่วมขับเคลื่อนงานตามนโยบายที่ผ่านมาให้มีความคืบหน้าในทุกด้าน และขอเน้นย้ำนโยบายสำคัญให้ร่วมสร้างความตระหนักรู้กับประชาชน ถึงความสำคัญของสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่ต้องดำรงรักษาไว้เพื่อสันติสุขของบ้านเมือง และให้น้อมนำศาสตร์พระราชา หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในการขับเคลื่อนงานยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ ส่วนการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ต้องเร่งรัดแก้ไขปัญหา” พล.อ.ประวิตรกล่าว
จากนั้นเวลา 11.00 น. พล.อ.ประวิตรเดินทางมายังอุทยานแห่งชาติเอราวัณ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการบริหารจัดการการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ การเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์หมอกควัน และการบริหารจัดการน้ำ และมาตรการรองรับภัยแล้ง โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ขอให้มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ระบบนิเวศ รวมถึงยกระดับอุทยานแห่งชาติโดยให้มีการประเมินอุทยานแห่งชาติสีเขียว ขณะที่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว กำหนดมาตรการงดใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ในเขตอุทยานแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563
จากนั้นเวลา 13.00 น. พล.อ.ประวิตรเป็นประธานปล่อยขบวนคาราวานต้านการเผาลดปัญหาหมอกควันเพื่อคุณภาพอากาศที่ดี และชมการสาธิต การเตรียมความพร้อมการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ ที่ลานเวทีกลางแจ้ง อุทยานแห่งชาติเอราวัณ โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง ควรป้องกันและเฝ้าระวังไม่ให้เกิดไฟไหม้ป่า จัดวางกำลังให้สามารถเข้าระงับไฟป่าได้ทันท่วงที นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการวางแผน