พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ เปรียบอนาคตใหม่ “เด็กน้อยเล่นกับไฟ พอเจ็บก็โทษไฟ ไม่โทษตัวเอง” ชอบทำอะไรที่เลยกฎเกณฑ์ หรือกฎหมาย
หลังจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมลูกพรรค ร่วมมือกันติด
# “อยู่.ไม่.เป็น.16 พ.ย.” จนกลายเป็นกระแสร้อนทางโซเชียลมาตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ กรรมการบริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) และอดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊กเชิงเปรียบเทียบ หัวข้อ “เมื่อเด็กน้อยเล่นกับไฟ พอเจ็บก็โทษไฟ ไม่โทษตัวเอง”
โดยระบุว่า อนาคตใหม่ออกคำเชิญชวนที่น่าสงสัยว่า "อยู่ให้เป็น"
โดยจะเปิดเผยใน 16 พ.ย.นี้
ก็พอเดาออกว่าเป็น Campaign ที่มีจุดประสงค์หลายอย่างแอบแฝงอยู่ เช่น
1. ต้องการบอกประชาชนว่า ถ้าพรรคอนาคตใหม่ทำตัวแบบ "อยู่เป็น" ได้ พรรคก็จะไม่ถูกยุบ แต่ก็จะเป็นการหักหลังประชาชน
ดังนั้น การที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ก็เพราะไม่ยอมโอนอ่อนต่ออำนาจ เปรียบเหมือน "อยู่-ไม่-เป็น"
2. เรื่องนี้จุดติด พรรคอนาคตใหม่ก็รุกไปสู่การต่อรองเรื่องอื่นได้อีกหลายเรื่อง อย่างน้อยๆ ก็ทำให้ลืมเรื่องเผด็จการภายในพรรค, เรื่องต่างๆ ที่โกหกประชาชนไว้, เรื่องที่ไม่ชอบวัฒนธรรมไทย ฯลฯ
3. จะเริ่มเป็นการชุมนุมครั้งแรกที่ดูเหมือนว่า ไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้นก็จะมีการชุมนุมแบบไม่ตั้งใจตามต่อมา
เรื่องทั้งหมดนี้ ถ้าคนในพรรคคิดทบทวนให้ดี ก็จะรู้ว่ามันไม่ได้เกิดมาจากการ "อยู่ให้เป็น" แต่มาจาก "การอยู่ไม่เป็นสุข" ลุกลี้ลุกลน ชอบทำอะไรที่เลยกฎเกณฑ์ หรือกฎหมาย
ประชาชนส่วนใหญ่ย่อมไม่เชื่อคำปลุกระดมเหล่านี้อยู่แล้ว แม้กระทั่งพวกเดียวกันก็เริ่มจะเลิกเชื่อแล้ว
ก่อนหน้านี้มีหลายคนออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊ก ทั้งวิพากษ์วิจารณ์และสนับสนุน
ที่น่าสนใจ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า #พรรคอนาคตใหม่ #อยู่ไม่เป็น “เกิดคำถามขึ้นมากมายเกี่ยวกับพรรคอนาคตใหม่ โดนโจมตี โดนกลั่นแกล้ง มาโดยตลอด … ถามใจคุณดูว่าจริงมั้ย?
พรรคอนาคตใหม่ยังไม่เคยทำอะไรผิดเพราะไม่เคยเป็นรัฐบาล แต่สังคมส่วนมากก็ตั้งคำถาม โดยเชื่อไปในทิศทางว่า “โดนยุบแน่” … ลองถามใจคุณดูครับ ว่าสังคมนี้ยุติธรรมหรือมีอำนาจมืดซ่อนอยู่?
พวกเราพรรคอนาคตใหม่แค่อยากมีส่วนร่วมกับการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่เราเชื่อว่าดีต่อสังคมโดยรวม แน่นอนครับ เราไม่ได้ถือปืนมาสั่งให้คุณเชื่อตามเรา แต่เราเล่นตามกติกาประชาธิปไตย เราแค่อยากให้ประชาชนมีความหวัง มีที่พึ่ง มีทางเลือก
หรือว่าที่พวกเรากำลังโดนกระหน่ำอยู่ เพียงเพราะว่าพวกเรา “อยู่ไม่เป็น” ครับ?
รอพบกับพวกเราพรรคอนาคตใหม่ 16 พฤศจิกายนนี้ แล้วท่านจะทราบว่าทำไมพวกเราจึงไม่ยอมอยู่เป็น”
#พรรคอนาคตใหม่คือความหวังของประชาชน
ต่อมาเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายจอม เพชรประดับ สื่อมวลชนอิสระ ลี้ภัยในสหรัฐอเมริกา ที่ก่อนหน้านี้ประกาศโยนผ้ายอมถอย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Jom Petchpradab ว่า "อยู่เป็น หรือ อยู่ให้เป็น" และ "อยู่ไม่เป็น" เชื่อว่าเป็นความคิดที่ต้องการคำอธิบายอย่างมาก สำหรับการใช้ชีวิตของคนไทยหลายคนในยุคสมัยนี้
"พรรคอนาคตใหม่" น่าจะเป็นพรรคการเมืองเดียวที่คอยตรวจจับความรู้สึกนึกคิดของผู้คนในสังคม แล้วนำขึ้นมากำหนดเป็นประเด็น หรือวาระทางสังคม ให้ได้คิดและชวนติดตาม
จริงๆ แล้วหน้าที่นี้ควรจะเป็นหน้าที่ของสมาคมสื่อฯ หรือสื่อมวลชนเสียด้วยซ้ำที่คอยกระตุ้น หรือกระตุกเตือนสังคม
เชื่อว่า 16 พฤศจิกายนนี้ การ "อยู่ไม่เป็น" ของพรรคอนาคตใหม่ น่าจะทำให้สังคมไทยได้เข้าใจความเป็นจริงของการเมืองไทยได้ไม่มากก็น้อย
จากนั้น 6 พฤศจิกายน เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ของ “หมอวรงค์” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ก็ออกมาตอบโต้อย่างร้อนแรง หัวข้อ อยู่ไม่เป็น# ไม่ต้องอยู่
เนื้อหาระบุว่า จู่ๆ ก็มีคนมาบอกว่า บ้านนี้เมืองนี้ "อยู่ไม่เป็น" ง่ายๆ ครับ อยู่ไม่เป็น ไม่ต้องอยู่ ดูต่อไป..... อยู่ไม่เป็น#ไม่ต้องอยู่ #Next
สำหรับ พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ กรรมการบริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) และอดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) จากคำโฆษณาหนังสือ “ปฏิบัติการลับ ใน สถานการณ์ลึก ของ ขุนศึกการข่าว” ที่ พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ เป็นผู้แต่ง ระบุว่า
“จาก ๖ ตุลา ถึง สถานการณ์ใต้ ข้อมูลสุดลึกที่สุดของชั้นความลับ” จากประโยคข้างต้น คงต้องสะดุดในความรู้สึกได้เป็นอย่างดีที่คุณจะต้องหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน “ลึกที่สุดของชั้นความลับ?!?” เพราะหนังสือเล่มนี้เป็นบันทึกเรื่องราวว่าด้วยประสบการณ์จริงอย่างถึงพริกถึงขิง ในการปฏิบัติงาน ในฐานะที่เป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ภาคใต้ ของชายที่ชื่อ “นันทเดช เมฆสวัสดิ์” หรือ “พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์” ที่ผู้ติดตามข่าวการเมืองหรือคอข่าวสามจังหวัดชายแดนใต้จะต้องระลึกได้ถึงความ “แน่” ของบุรุษผู้นี้... มี 2 เรื่องที่ยืนยันได้คือ การจับ “ฮัมบาลี” ผู้เป็นแกนนำกลุ่มผู้ก่อการร้าย JI ซึ่งจะมีใครสักกี่คนที่จะรู้ว่าผู้มีส่วนสำคัญในฐานะผู้ควบคุมทีมงาน จนติดตามเรื่องนี้ให้สำเร็จได้ ก็คือ “พล.ท.นันเดช เมฆสวัสดิ์” ผู้นี้
และอีกเรื่องที่เป็นเครื่องการันตีอีกได้ นั่นก็คือ ยศ พล.ท. ที่ได้รับพระราชทานมา เพราะว่า พล.ท.นันทเดช ไม่ได้จบจากโรงเรียนนายร้อย จปร. หากแต่เป็นคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และการก้าวมาถึงจุดนี้จึงไม่ใช่เรื่องของโชคช่วยอย่างแน่นอน... ที่สำคัญ คุณผู้อ่านจะได้รู้ลึก รู้ลับ และรู้จริง ในเหตุการณ์สถานการณ์ใต้ จากบุคคลที่ได้ไปคลุกวงในมาอย่างเป็นฉากๆ และเรื่องที่ใครๆ ไม่กล้าพูด แต่เขาผู้นี้นั้น “กล้าพูด” คงไม่ต้องอธิบายอื่นใดไปอีกว่าเหตุใด หนังสือเล่มนี้ จึงน่าสนใจยิ่ง
แน่นอน มุมมองในเชิงเปรียบเทียบ และคำอธิบาย “เมื่อเด็กน้อยเล่นกับไฟ พอเจ็บก็โทษไฟ ไม่โทษตัวเอง” ของ ขุนศึกการข่าว ย่อมไม่ธรรมดา และไม่อาจมองข้ามแม้แต่นิดเดียว