รอดไม่รอด “เต้”ให้ปากคำ ป.ป.ช.แจ้งมูลค่าพระเครื่องสูงเวอร์

“มงคลกิตติ์”เข้าให้ปากคำ ป.ป.ช.หลังถูก “ศรีสุวรรณ” ร้องตรวจสอบ กรณียื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นพระเครื่องมูลค่ารวมเกือบ 150 ล้านบาท ส่อสร้างมูลค่าลวงเตรียมฟอกเงินในอนาคตหรือไม่

มีรายงานว่า ช่วงเช้าวันนี้ (7 พ.ย.) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ จะเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน เป็นพระเครื่องหลายองค์ ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่าได้แจ้งมูลค่าสูงเกินจริงหรือไม่ โดยเฉพาะพระกริ่งปวเรศทองคำ น้ำหนัก 3 บาท นายมงคลกิตติ์ได้แจ้งมูลค่าถึง 50 ล้านบาท ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านพระเครื่องหลายคน รวมทั้ง ม.ล.จุลเจิม ยุคล ได้ออกมาระบุว่า ที่ผ่านมายังไม่เคยมีการสร้างพระกริ่งปวเรศเนื้อทองคำแต่อย่างใด พระกริ่งปวเรศที่นายมงคลกิตติ์ครอบครองดังกล่าวจึงน่าจะเป็นของปลอมและมีราคาตามเนื้อทองคำเท่านั้น ไม่ได้มีมูลค่าถึง 50 ล้านบาทแต่อย่างใด

ทั้งนี้ นายมงคลกิตติ์ได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. ตามที่ ป.ป.ช.ได้เปิดเผยต่อสาธารณะเมื่อวันที่ 20 ก.ย.62 นั้น ระบุว่า มีทรัพย์สิน​ทั้งสิ้น 192,902,325 บาท​ หนี้สิน​ 19,168,813 บาท​ มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน​ 173,733,512 บาท โดยในส่วนของทรัพย์สินอื่นมูลค่า 147,971,500 บาทนั้น ประกอบด้วย พระเครื่องกริ่งปวเรศทองคำ หนัก 3 บาท มูลค่า 50,000,000 บาท พระร่วงหลังรางปืน จ.สุโขทัย เลี่ยมทองคำ 2 บาท มูลค่า 12,000,000 บาท พระสมเด็จไกเซอร์ เลี่ยมทองคำ 2 บาท มูลค่า 30,000,000 บาท พระพุทธชินราชใบเสมา เลี่ยมทองคำ 2 บาท มูลค่า 2,540,000 บาท พระสมเด็จวัดระฆัง เลี่ยมทองคำ 1 บาท มูลค่า 40,020,000 บาท พระรอดลำพูนเลี่ยมทองคำ 1 บาท มูลค่า 10,020,000 บาท พระคงลำพูนเลี่ยมทองคำ 1 บาท มูลค่า 320,000 บาท พระลือหน้ามงคลเลี่ยมทองคำ 1 บาท มูลค่า 420,000 บาท พระยอดธงมูลค่า 2,000,000 บาท พระพิฆเนศโบราณ เลี่ยมทองคำ 1 บาท มูลค่า 320,000 บาท ครุฑทองคำ 0.5 บาท มูลค่า 10,000 บาท เป็นต้น

ซึ่งต่อมา นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.ให้ทำการสอบสวนว่า มูลค่าทรัพย์สินต่างๆ ดังกล่าว เป็นการสร้างมูลค่าลวงขึ้นมาหรือไม่ เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการฟอกเงินเพื่อผ่องถ่ายทรัพย์สินในอนาคตหรือไม่ และอาจเข้าข่ายเป็นการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ มีความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ระวางโทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ