นายกฯแถลงผลสำเร็จประชุมสุดยอดอาเซียน หวังทุกฝ่ายต่อยอดความเป็นอาเซียนที่ยั่งยืน ระบุตระหนักดี หลายเป้าหมายไม่สามารถบรรลุผลในปีเดียว ภายหลังแถลงเสร็จได้ลงมาชูนิ้วสัญญลักษณ์ “ไอ เลิฟ ยู” พร้อมกล่าว “ขอบคุณมาก รักทุกคน”
วันนี้ (4 พ.ย.) เวลา 20.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) แถลงผลการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ที่ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม ชั้น 2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 2-4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นับเป็นบทสรุปของการดารงตำแหน่งประธานอาเซียนของไทยภายใต้แนวคิดหลัก “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” โดยเน้นเรื่องความเป็นหุ้นส่วน เพื่อสานต่อผลลัพธ์จากการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 เมื่อเดือนมิถุนายน ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง โดยไทยเห็นความสาคัญของหุ้นส่วนในการขับเคลื่อนความยั่งยืนของอาเซียน ผมจึงได้นำผลการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 ไปหารือกับผู้นำจี 20 (G20) ที่นครโอซากา และได้นำเสนอประเด็นความร่วมมือที่สาคัญ 4 ประการ คือ การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ การเข้าถึงแหล่งทุน การพัฒนาทุนมนุษย์ และการแก้ไขปัญหาขยะทะเล โดยกิจกรรมดังกล่าว มีประเทศ G20 เข้าร่วมสนับสนุนด้วย นอกจากนี้ ไทยได้ผลักดันประเด็นเหล่านี้กับประเทศคู่เจรจาและนาไปหารือต่อในช่วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่นครนิวยอร์กในช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในช่วง 3 วันที่ผ่านมาผู้นำจาก 18 ประเทศทั่วโลก พร้อมด้วยเลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และกรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้มาร่วมประชุม ตนรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ประธาน การประชุมระดับผู้นำทั้ง 9 การประชุม ทั้งการประชุมระหว่างอาเซียนกันเองและกับประเทศคู่เจรจาที่สาคัญ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น สหรฐั ฯ อินเดียและสหประชาชาติ รวมทั้งมีการประชุมในกรอบอาเซียนบวกสาม การประชมุ สุดยอดเอเชียตะวันออก (อีเอเอส) และการประชุมสุดยอด RCEP นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมพิเศษที่ไทยได้จัดขึ้น คือ งานเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อหารือเรื่อง การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งที่ประชุมยินดีต่อข้อเสนอไทยที่จะจัดการประชุมระหว่างอาเซียนกับภาคีภายนอกเพื่อสร้างหุ้นส่วน ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนในปี 2563
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การประชุมทั้งหมดนี้ประสบผลสาเร็จด้วยดี แสดงให้เห็นถึงบทบาทและความเป็นแกนกลางของอาเซียนในโครงสร้างสถาปัตยกรรมภูมิภาคและการเป็นสะพานเชื่อมระหว่างประเทศต่าง ๆ ในสภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ การแข่งขันและการเผชิญหน้าระหว่างมหาอำนาจ และความตึงเครียดทางการค้า โดยมีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมที่สานต่อข้อริเริ่มของอาเซียนในปีที่ผ่าน ๆ มา ไม่ว่าจะเป็นข้อริเริ่มความร่วมมือด้านเมืองอัจฉริยะกับจีนและการเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่นจีนและประเทศอาเซียนบวกสาม ภายใต้แนวทางการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงของอาเซียนที่ไทยได้ริเริ่ม ซึ่งประเด็นนี้ได้รับการสนับสนุนจากประเทศต่าง ๆ และการสนับสนุนในเชิงวิชาการจากธนาคารโลกอีกด้วย
ส่วนการขับเคลื่อนประเด็นที่อาเซียนให้ความสาคัญร่วมกับภาคีภายนอก ในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ เราได้ต่อยอดการส่งเสริมความมั่นคงที่ยั่งยืนในภูมิภาค โดยผู้นาอาเซียนได้หารือ เกี่ยวกับการสานต่อมุมมองของอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก ผ่านกิจกรรมและโครงการความร่วมมือในลักษณะวิน-วิน บนพื้นฐาน
ของหลักการสามเอ็ม คือ ความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน การเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน รวมถึงได้หารือกันในประเด็นสถานการณ์ในภูมิภาคและเห็นความจำเป็นที่จะต้องรักษาพลวัตในการหารือเพื่อแก้ไข ความท้าทายต่าง ๆ โดยสันติวิธี ในการประชุมครั้งนี้ เรายังมุ่งมั่นที่จะร่วมกันรับมือกับภัยคุกคามความมั่นคง โดยเฉพาะ อาชญากรรมข้ามชาติผ่านการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการบริหารจัดการชายแดนและการเสริมสร้างความมั่นคง ทางไซเบอร์เพื่อส่งเสริมพื้นที่ไซเบอร์ที่เปิดกว้าง ปลอดภัย และมีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ เราเห็นว่าความมั่นคงที่ยั่งยืนจะเกื้อกูลการพัฒนาเศรษฐกิจที่มีพลวัตอาเซียนจึงมุ่งมั่นที่จะบรรลุผลลัพธ์ด้านเศรษฐกิจ ที่เป็นรูปธรรมในการนี้การสรุปผลการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) ตามแถลงการณ์รวมของผู้นาเกี่ยวกับอาร์เซ็ป เป็นการผนึกกาลังของกลุ่มประเทศซึ่งมีจีดีพี รวมกันร้อยละ 32 ของโลก มีประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรโลก และมีมูลค่าการค้ารวมกันสูงถึงร้อยละ 30 ของการค้าโลก รวมทั้งการพัฒนาทุนมนุษย์เพื่อให้เราได้รับ ประโยชน์อย่างเต็มที่จากการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการอาเซียนจะได้รับประโยชน์จากการเชื่อมโยง ASEAN Single Window ได้ครบทั้ง 10 ประเทศ การสรุปการเจรจาข้อตกลงยอมรับร่วมผลการตรวจสอบและรับรอง ผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของอาเซียน ตลอดจนการริเริ่มการจัดตั้งเครือข่ายอาเซียนเพื่อต่อต้านการประมงไอยูยู IUU รวมถึงผู้นำอาเซียนได้หารือเพื่อร่วมมือกับภาคีภายนอกในการต่อยอดการสร้างความมั่นคงของมนุษย์ที่ยั่งยืน โดยเฉพาะในการแก้ไขปัญหาขยะทะเล ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปัญหา หมอกควันข้ามแดน การส่งเสริมสิทธิต่าง ๆ และการศึกษาของเด็ก นอกจากนี้ อาเซียนยังได้ลงนามเอ็มโอยูกับฟีฟ่า เพื่อพัฒนากีฬาฟุตบอลในอาเซียน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเสนอตัวของประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ฟุตบอลโลก หรือฟีฟ่าเวิล์ดคัพในปี 2577 ด้วย
อนึ่งในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้พบหารือกับผู้แทนภาคประชาสังคม เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน โดยได้รับฟังข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์และช่วยส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมเพื่อทาให้ อาเซียนเป็นประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
10. ผู้นำประเทศต่าง ๆ ได้ร่วมกันสานต่อเจตนารมณ์ของเอกสารวิสัยทัศน์ผู้นาอาเซียนว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วน เพื่อความยั่งยืน โดยภาคคีภายนอกได้แสดงความพร้อมที่จะช่วยอาเซียนเสริมสร้างความยั่งยืนผ่านแผนงานการส่งเสริมข้อริเริ่ม ความเกื้อกูลระหว่างวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2025 และวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ของสหประชาชาติ (Complementarities Roadmap) ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหประชาชาติ รวมทั้งผู้นาการประชุม สุดยอดเอเชียตะวันออกได้ออกแถลงการณ์เพื่อยืนยันความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืนอีกด้วย นอกจากนี้ ได้มีข้อเสนอ ในการร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมจากผู้นาอาเซียน แขกของประธาน และองค์การระหว่างประเทศต่าง ๆ จากงานเลี้ยงอาหาร กลางวันเพื่อหารือเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วย
อย่างไรก็ตาม การประชุมสุดยอดครั้งนี้ ได้มีการเปิดตัวศูนย์อาเซียนในประเทศไทยอีก 3 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษา และการหารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ศูนย์อาเซียนเพื่อผู้สูงวัยอย่างมีศักยภาพและนวัตกรรม และศูนย์ฝึกอบรมอาเซียน ด้านสังคมสงเคราะห์และสวัสดิการสังคม ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ไทยมอบให้กับอาเซียนเพื่อเตรียมความพร้อมสาหรับอนาคต โดยจะรองรับประเด็นต่าง ๆ ที่มีความสาคัญสาหรับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นด้านสังคมสงเคราะห์และสวัสดิการสังคม การรองรับการเข้าสังคมสูงวัย และการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในภาพรวม นอกจากนี้ ผู้นำอาเซียนได้มีข้อตัดสินใจร่วมกันให้จัดการประชุมสุดยอดอาเซียน-นิวซีแลนด์ภายหลังการประชุม สุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 36 ที่เมืองดานัง เวียดนาม ในปี 2563
“ผมขอขอบคุณผู้นำอาเซียนและภาคีภายนอกของอาเซียนที่ได้สนับสนุนไทยอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ขอบคุณพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนทุกฝ่ายที่ช่วยสนับสนุนการจัดการประชุมและกิจกรรมภายใต้การดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของไทย ขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ ติดตามและเผยแพร่ข่าวสารการประชุมและ กิจกรรมต่าง ๆ ให้สาธารณชนได้รับทราบ และที่สาคัญที่สุด ขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่มีส่วนร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดีให้แก่อาเซียนตลอดทั้งปีนี้ เราตระหนักดีว่าเป้าหมายในหลาย ๆ ด้านไม่สามารถบรรลุผลได้ภายในปีเดียว ซึ่งไทยได้สานต่อข้อริเริ่มที่สำคัญ จากปีก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนกับโลกของฟิลิปปินส์ หรือการสร้างความเข้มแข็งและนวัตกรรมของสิงคโปร์ เพื่อขับเคลื่อนวาระของอาเซียนเหล่านี้ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ขอให้คนไทยทุกคนภูมิใจว่า ปีนี้ เราได้ช่วยวางรากฐาน เพื่อนำไปสู่อาเซียนที่ยั่งยืนในทุกมิติ ผมมั่นใจว่าเวียดนามจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนต่อจากไทยได้อย่างเต็มที่ และมีประสิทธิภาพ ขออวยพรให้เวียดนามประสบความสำเร็จในการเป็นประธานอาเซียนในปีหน้า เพื่อสร้างอาเซียน ที่ยั่งยืนในทุกมิติต่อไป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีได้ลงมาชูนิ้วสัญญลักษณ์ “ไอ เลิฟ ยู” พร้อมกับกล่าวว่า “ขอบคุณมาก รักทุกคน”