"หมอระวี" ห่วง รายได้คน กทม.หด อัตราคนว่างงานพุ่ง คาดปีหน้าตกงานกว่า 4 แสน แนะรัฐ เร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เพิ่มรายได้ แทน ประชานิยม ลด แลก แจก แถม เหตุไม่ยั่งยืน ยก พระราชดำรัส พ่อหลวง เตือนสติ ให้คันเบ็ดปชช.แทนให้ปลา
วันนี้ (31 ต.ค.) นายแพทย์ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ แสดงความเป็นห่วงถึงผลสำรวจข้อมูลรายได้ต่อครัวเรือนของชาวกรุงเทพ ฯ ที่ลดลงจาก 49,194 บาทต่อเดือน ในปี 2556 มาเหลือเพียงเดือนละ 46,695 ต่อเดือนในปี 2562 หรือลดลงเดือนละ 2,499 บาท ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก เพราะใน 6 ปีที่ผ่านมา รายได้ไม่เพิ่มขึ้นแถมยังลดลงถึง 5 เปอร์เซนต์ อีกทั้งตัวเลขนี้ยังไม่รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี ขณะที่ยังมีปัญหาการว่างงานสูงมากขึ้น ซึ่งจากสถิติเมื่อต้นปี 2562 พบว่ามีอัตราการว่างงานถึง 3.9 แสนคน และในปี 2563 คาดว่าอัตราการว่างงานจะพุ่งสูงขึ้นมากกว่า 4 แสนคน
ทั้งนี้เห็นว่าถ้าเปรียบว่าเศรษฐกิจไทยกำลังป่วย ก็ถือว่าทั้งรายได้คน กทม.ที่ลดลงและอัตราว่างงานที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คืออาการของโรคที่เริ่มแสดงออกมาให้เห็นชัดเจนมากขึ้น เป็นการบ่งบอกถึงปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข มากกว่าการออกนโยบายประชานิยม แต่ต้องเน้นไปที่การเพิ่มรายได้ กระจายโอกาส การทำงาน ทำให้ ประชาชนเข้าถึงแหล่งทุน กรณีที่อยากทำธุรกิจ Start Up แทนที่จะเป็นมนุษย์เงินเดือน
นพ.ระวี ยังเสนอให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณไปแก้ไขปัญหาประเด็นรายได้ต่อครัวเรือนลดลงที่ต้นเหตุด้วยการส่งเสริมการพัฒนาแรงงานให้มีความรู้ความสามารถมากขึ้น และ สนับสนุนธุรกิจของภาคเอกชนให้เพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจต่างๆ เพื่อเพิ่มการจ้างงานมากขึ้น เมื่ออัตราการว่างงานลดลงก็จะทำให้ประชาชนมีรายได้ต่อครัวเรือนเพิ่มขึ้นเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และ เป็นรูปธรรม
“การเน้นสร้างงานและพัฒนาบุคลากร จะทำให้เศรษฐกิจไทยมีเสถียรภาพมากขึ้น ดีกว่าการใช้นโยบายประชานิยมแบบลดแลกแจกแถมซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น มากกว่าการแก้ปัญหาในระยะยาว เราควรนำพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงพระราชทานให้แนวทางไว้ว่า
"เราไม่ควรให้ปลาแก่เขา แต่ควรจะให้เบ็ดตกปลาและสอนให้รู้จักวิธีตกปลาจะดีกว่า” มาปรับใช้ เพราะถ้าปลาที่มีหมดลง ประชาชนก็จะสามารถหาปลาตัวใหม่ด้วยตัวเอง แก้ปัญหาด้วยตัวเองได้อย่างยั่งยืน" น.พ.ระวีกล่าว