นายทหารคนสนิท “ป๋าเปรม” พาสื่อเข้าชมบ้านสี่เสาเทเวศร์ เป็นคณะสุดท้าย ก่อนส่งมอบคืนกรมสวัสดิการทหารบก เผยเหมือน“ป๋า”ยังอยู่ในบ้าน ลิฟท์ขนของขึ้นลงเอง กลิ่นน้ำหอมยังมีทุกวัน
วันนี้(29 ต.ค.) นายทหารด้านการข่าว และ รักษาความปลอดภัยบ้านสี่เสาเทเวศร์ ซึ่งเคยเป็นบ้านพักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้นำคณะสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมเป็นคณะสุดท้าย โดยได้บรรยายถึงพื้นที่ส่วนต่างๆ ของบ้านที่ พล.อ.เปรมพำนักอาศัย และทำกิจวัตรประจำวันตั้งแต่ พ.ศ.2522 ในขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก จนมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายกรัฐมนตรี และประธานองคมนตรี ก่อนที่วันที่ 31 ต.ค.นี้ จะทำการส่งคืนให้กรมสวัสดิการทหารบก ซึ่งหลังจากเยี่ยมชมบ้านแล้วคณะสื่อมวลชนได้นำดอกไม้สีชมพูมาวางไว้หน้าภาพถ่ายของ พล.อ.เปรมด้วย
นายทหารคนสนิทของ พล.อ.เปรม กล่าวต่อว่า บ้านหลังนี้สร้างขึ้นสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ในปี พ.ศ. 2500 พล.อ.เปรมเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้เป็นเวลารวม 40 ปี และจะส่งมอบให้กรมสวัสดิการทหารบกตามขั้นตอน ระหว่างนี้ไม่สามารถให้เข้าไปดูในตัวบ้าน หรือถ่ายภาพได้เนื่องจากเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังได้มาสำรวจและเก็บรายละเอียดแล้ว ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะนำไปดำเนินการอะไรต่อ เป็นเรื่องของชั้นความลับ เพราะจะส่งผลเรื่องการรักษาความปลอดภัย
สำหรับบ้านสี่เสาฯ มีอาคารหลัก 2 ชั้น 1 อาคาร เป็นพื้นที่ที่พล.อ.เปรมพักอาศัย ประกอบไปด้วยปีกซ้ายด้านบนเป็นห้องทำงาน มีโต๊ะทำงาน และโต๊ะวางเอกสาร รวมถึงเครื่องรับโทรทัศน์เท่านั้น ถัดไปด้านหลังเป็นห้องเก็บของที่ระลึก และห้องพระ ซึ่งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว พล.อ.เปรมได้สั่งให้บรรจุของทั้งหมดใส่รถยีเอ็มซีไปไว้ที่บ้านเลขที่ 1 (บ้านศรัทธา) อ.เมือง จ.สงขลาหมดแล้ว สำหรับด้านกลางไปถึงปีกขวาทั้งชั้น 2 เป็นห้องนอนโล่ง มีเตียงกลางห้อง มีโต๊ะวางวิทยุ 1 เครื่อง และ นาฬิกาปลุก มีตู้เสื้อผ้าติดผนัง ห้องน้ำในตัว ส่วนด้านล่างปีกซ้ายเป็นห้องที่มีเปียโนตั้งอยู่กลางห้อง และเป็นห้องประพันธ์เพลง ฝั่งขวาเป็นห้องรับแขก ที่ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเป็นคนแรกที่ได้เข้ามาเยี่ยมคารวะ และเป็นแขกต่างประเทศคนสุดท้ายที่เข้าพบ พล.อ.เปรมก่อนที่จะถึงแก่อสัญกรรม สำหรับด้านหลังเป็นห้องประชุม จัดเลี้ยง มีคาราโอเกะ ด้านข้างมีห้องตัดผม
ส่วนด้านนอกตัวบ้านคือพื้นที่ที่เกิดประเด็นการเมือง และประวัติศาสตร์การเมือง คือ ด้านทางเดินมีที่ตั้งไมโครโฟนสำหรับให้โอวาทในเทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่ วันเกิด ที่มีคนเข้ามาเยี่ยมขอพร ซึ่ง พล.อ.เปรมจะพูดจะด่าจะชมใครก็อยู่ตรงนี้ และ ประตูเหล็กสีเทาด้านข้าง ซึ่งทุกคนต้องเรียกว่าประตูข้าง ห้ามเรียกประตูหลัง ซึ่งประตูบานดังกล่าวมีเกร็ดข้อมูลมากมาย ตั้งแต่การปฏิวัติรัฐประหาร คนที่จะมาปรึกษา ขอคำแนะนำ ชนะก็เป็นนายกฯ แพ้ก็หนีไปต่างประเทศ ทุกคนเข้าประตูนี้หมด ส่วนกุญแจประตูนี้จะอยู่ที่นายทหารคนสนิทเพียงคนเดียว เป็นคนอนุมัติให้ปิดเปิด
“ป๋าจะมีความเป็นส่วนตัว และประหยัดมาก มีความพอเพียง เปิดปิดไฟด้วยตนเอง ออกจากห้องไหนก็จะปิดทันที ลูกน้องก็จะอยู่อีกส่วนของบ้าน สังเกตจากไฟก็จะรู้ว่าป๋าอยู่ในช่วงเวลาทำกิจวัตรประจำวัน และอยู่ห้องไหน ทุกคนอาจจะเรียกท่านว่าป๋า แต่พวกเราเรียกว่าปู่ ทุกวันนี้ป๋ายังอยู่ ไม่ได้ไปไหนเพราะยังไม่ได้เผา ทุกคนรู้ดี เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีการเก็บของที่เหลือออกมาทั้งหมด ก็ใช้ลิฟท์ที่ท่านขึ้นประจำขนของ ลิฟท์ก็ขึ้น-ลงไม่หยุด ไม่รู้ว่าท่านส่งสัญญาณอะไร หรือว่าท่านอาจจะไม่อยากไป ส่วนเรื่องกลิ่นหอมไม่ต้องพูดถึง มีทุกวัน ทั้งกลิ่นน้ำหอม สบู่ ที่คนในบ้านรู้ดี “นายทหารคนสนิทกล่าว
พล.อ.พิศณุ พุทธวงศ์ นายทหารคนสนิทประธานองคมนตรี กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวกองทัพบกได้ขอเข้าใช้ประโยชน์จากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และได้มอบให้กรมสวัสดิการทหารบกรับผิดชอบ การส่งมอบพื้นที่ก็จะส่งมอบกลับไปที่กองทัพบกตามขั้นตอน โดยระหว่างนี้คือการย้ายของส่วนตัวที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินครุภัณฑ์ของทางราชการออกไปเท่านั้น ส่วนกองทัพบกจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ตนไม่ทราบ