ทษช.ดิ้นสู้ ส่งทีมกฎหมายยื่นศาลรัฐธรรมนูญขอรับทราบข้อกล่าวหา อ้างยังงงอยู่ผิดข้อหาอะไร กกต.รวบรัดเร็วมาก “ปรีชาพล” ลั่นตราบใดที่ศาลยังไม่สั่งยุบ ยังให้ลูกพรรคหาเสียงต่อ เพราะเป็นความหวังของสมาชิกและประชาชน
วันนี้ (13 ก.พ.) เวลา 13.30 น. ที่พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค ไทยรักษาชาติ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติยุบพรรค ทษช.ว่า ทราบแล้วว่า กกต.มีมติยุบพรรคและยื่นไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ขณะนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาล แต่เรายังไม่เห็นรายละเอียดคำร้อง เมื่อทราบรายละเอียดแล้วจะให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคดำเนินการต่อไป
ร.ท.ปรีชาพลกล่าวว่า ในเวลา 15.00 น.วันนี้จะให้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอความเมตตา และใช้สิทธิ เพราะจนขณะนี้เราก็ยังไม่เห็นว่าถูกร้องหรือมีความผิดในข้อหาใด เพราะเราเองก็ยังงงๆ อยู่ กระบวนการเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก ก็อยากจะขอใช้สิทธิ์ของพวกเราในฐานะพรรคการเมือง
หัวหน้าพรรค ทษช.กล่าวอีกว่า พรรคยังคงเดินหน้าให้ทีมหาเสียงลงพื้นที่ต่อไปจนกว่าที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยเป็นที่สิ้นสุด ตราบใดที่ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีมติในการวินิจฉัยเป็นที่สิ้นสุด พรรค ทษช.จะยังคงทำหน้าที่ในการหาเสียงตามแผนที่วางไว้ได้ เนื่องจากพรรค ทษช.เป็นความหวังของสมาชิกพรรคและของประชาชน ขณะนี้ยังไม่ได้หาแผนสำรองในกรณีที่พรรคถูกยุบ ซึ่งการจะไปกล่าวถึงกรณีดังกล่าวยังเป็นเรื่องที่เร็วเกินไป ขณะนี้ต้องสร้างความมั่นใจให้แก่สมาชิกของพรรคว่าพรรคสามารถเดินหน้าต่อไปได้
ด้านนายพิชิต ชื่นบาน ประธานที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพรรค ทษช.กล่าวว่า ขอทำความเข้าใจว่าการสิ้นสุดการทำงานของพรรคตามกฎหมายบัญญัติจะสิ้นสุดลงเมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ขณะนี้ถือว่าเรื่องที่ กกต.กล่าวหาโดยที่ทางพรรคไม่มีโอกาสแม้แต่จะทราบข้อกล่าวหา ไม่มีโอกาสที่จะแสดงข้อเท็จจริงแสดงพยานหลักฐานใดๆ ถือว่าในชั้นสอบสวนเราไม่มีโอกาสเลย เวลานี้ตามที่เป็นข่าวก็ทราบว่าเรื่องอยู่ในกระบวนการที่ศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องต่อแล้ว
ฝ่ายกฎหมายของพรรคจะมอบคณะทำงานไปยื่นคำร้องขอความเมตตาต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอโอกาสรับทราบข้อกล่าวหาตามกระบวนการที่ศาลกำหนด เพราะขณะนี้เราถือว่าคำสั่งเป็นคู่ความหรือมีคู่กรณี พรรค ทษช. ถือว่าเป็นคู่กรณีกับ กกต. ศาลรัฐธรรมนูญเป็นคนกลางที่จะต้องวินิจฉัยว่า กกต.ที่กล่าวหาพรรค ทษช.คู่กรณีเป็นอย่างไร ทั้งนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ขอให้พรรคไทยรักษาชาติได้มีโอกาสแก้ข้อกล่าวหา อ้างพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่าเราไม่ได้กระทำผิด
ส่วนจะยื่นพยานบุคคลแนบไปกับคำร้องหรือไม่นั้น นายพิชิตกล่าวว่า ขอให้ได้เห็นข้อกล่าวหาก่อน ให้รู้ว่าประเด็นที่กล่าวหามีอะไรบ้าง ฝ่ายกฎหมายจะได้สู้ตามประเด็นที่มีการกล่าวหา เวลานี้คงจะบอกไม่ได้ว่าจะยื่นเอกสารอะไร
ข่าวเกี่ยวเนื่อง
มติเอกฉันท์ 7-0 กกต.ยื่นศาล รธน.ยุบ ทษช.เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบปกครอง
ทันควัน! ศาล รธน.เตรียมวินิจฉัยรับไม่รับคำร้องยุบ ทษช.หรือไม่ พรุ่งนี้
คาดชงยุบ ทษช.ผิด ม.92(1) โทษ “ใบดำ” กก.บห.โดนตัดสิทธิชั่วชีวิต-“อิทธิพร” แจงยังพิจารณาไม่เสร็จ