“ประยุทธ์” แจงย้ำโยกย้ายทหารเรื่องของกลาโหม ดูความอาวุโส-เหมาะสม ขอให้เลิกพูดดูเด็กของใคร แจงไม่มีเกณฑ์ทหาร ยามวิกฤติก็ไม่มีใครช่วย ทุกหน่วยงานกำลังพลน้อย ขออย่าบิดเบือนเอาจุดบกพร่องเพียงเล็กน้อยมาติติงเพื่อคะแนนเสียง
วันนี้ (7 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุม ครม.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาแต่งตั้งบัญชีโยกย้ายนายทหาร ว่าเรื่องนี้ตนได้บอกแล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของกระทรวงกลาโหม มีเพราะระบบของกระทรวงเพราะฉะนั้นในเรื่องการพีจารณาแต่งตั้งขึ้นมานั้นก็เป็นการดำเนินการโดยคณะกรรมการที่มาจากผู้บัญชาการเหล่าทัพปลัดกระทรวงกลาโหมซึ่งจะต้องมีความเห็นชอบร่วมกันว่าจะแต่งตั้งใครให้เป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพคนใหม่ รวมความไปถึงการแต่งตั้งนายทหารยศชั้นในพลด้วย
“คณะกรรมการฯ ก็จะดูถึงความอาวุโส ดูถึงเรื่องความเหมาะสม ไม่ใช่ว่าเป็นคนของใคร เด็กของใคร สนิทกับใครวันนี้ขอร้องว่าให้เลิกพูดกันเสียทีก็ขอให้ค่อยดูแล้วกันว่าผลจะออกมาอย่างไรนายกฯ เองก็ติดตามในเรื่องนี้อยู่ซึ่งก็จะดูทั้งประวัติการทำงาน ความรู้ความสามารถ แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนไม่เก่ง เพราะถ้าเติบโตมาถึงขนาดนี้ได้ก็ใช้ได้ทั้งหมด เพียงแต่ว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความเป็นธรรมและเหมาะสม เพราะทหารมีหน้าที่หลักที่จะต้องทำให้สถานการณ์ความมั่นคงนั้นอยู่ได้ตามหลักการ หน้าที่ ภารกิจ และพันธกิจของกระทรวงกลาโหม” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มีหลายคนออกมาบอกว่าปัจจุบันไม่ควรต้องมีการเกณฑ์ทหารแล้ว ก็ต้องขอย้ำว่าวันนี้ทหารมีหน้าที่ต้องทำหลายอย่าง ถ้าเราไม่มีทหารหรือไม่มีพลทหารเราก็จะไม่มีคนมาช่วยเราในยามวิกฤติเพราะทุกกระทรวง ทุกหน่วยงานจะไม่มีกำลังพล ทั้งหมดเป็นเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างหรือการจ้างคนเพิ่ม แต่ทหารนั้นจ้างเพียงครั้งเดียว ทำงานกินนอนอยู่ในค่ายมีการเรียกรวมพลเมื่อไหร่ก็สามารถขึ้นรถพร้อมไปในพื้นที่ได้เร็วกว่าส่วนอื่นๆ เมื่อถึงเวลาที่เราต้องช่วยเหลือประชาชนในระยะแรกจากนั้นก็สามารถส่งมอบงานต่อให้ฝ่ายท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบต่อไป ทหารก็ไปข่วยด้านอื่นต่อ การทำงานต้องเป็นแบบนี้ หลายประเทศทั่วโลกก็ยังมีการเกณฑ์ทหารอยู่และผู้ที่ได้รับเกณฑ์ทหารปัจจุบันก็ได้รับเงินเดือนจำนวนไม่น้อยซึ่งผิดกับสมัยก่อนที่ได้รับเงินเดือนไม่มากนัก แต่ปัจจุบันเงินเดือนสูงไปถึง 8,000-9,000 บาท ซึ่งไม่น้อยกว่าผู้ที่มีรายได้ได้ 300 บาทต่อวัน ทุกอย่างได้ปรับขึ้นไปแล้ว และความเป็นอยู่ การกินต่างๆก็ดีขึ้นเพราะมีการหักค่าประกอบเลี้ยงมากขึ้นจากเบี้ยเลี้ยงที่มีอยู่ ส่วนที่เหลือก็เป็นค่าใช้จ่าย เงินเดือนก็มีต่างหาก ซึ่งจะเห็นว่าในหลายพื้นที่ก็มีผู้สมัครเป็นทหารมากกว่าความต้องการเสียอีกโดยไม่ต้องจับฉลาก
”ขอร้องว่าอย่าไปบิดเบือนในเรื่องนี้กันมากนักและช่วยตอบคำถามด้วยว่าถ้าเราไม่มีพลทหาร แล้วเราจะทำอย่างไร อย่าลืมว่าหลายประเทศในโลกก็ยังมีอยู่ วันนี้เปิดโอกาสให้สมัครเข้ามาก็ได้ถ้ามีผู้สมัครใจไม่พอก็ต้องมีการเกณฑ์ทหารเข้ามาถือเป็นเรื่องธรรมดา และทุกคนเมื่อกลับออกไปก็จะเป็นผู้ที่มีระเบียบวินัย เพราะได้รับการฝึกมา จึงอยากขอร้องว่าอย่าไปเอาจุดบกพร่องเพียงเล็กน้อยมาติติงจนระบบเกิดความเสียหาย อย่าไปทำเพื่อคะแนนเสียง จนทำให้ประเทศชาติอันตรายเลย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว