xs
xsm
sm
md
lg

สนช.ห่วงผู้ตรวจการฯ ถูกครอบงำเลือกไม่รัดกุม สับ กกต.ทำน่าเกลียด ชื่ออิงการเมืองเพียบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

วัลลภ ตังคณานุรักษ์ สนช. (แฟ้มภาพ)
“มหรรณพ” เผยห่วงคัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งไม่รัดกุม หวั่นเปิดช่องการเมืองครอบงำ “ครูหยุย” สวด กกต.ทำน่าเกลียด ไม่ปลื้มรายชื่อผู้ตรวจฯ อิงขั้วการเมืองบอกสวมหัวใหม่ต้องเปลี่ยนแขนขา ด้านเว็บทำโพลสำรวจหนุน แต่ตอบแบบไม่มียืนยันตัวตน

วันนี้ (6 ส.ค.) นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ สมาชิก สนช. ในฐานะผู้รวบรวมรายชื่อ สนช.เสนอแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการเลือกตั้ง กล่าวว่า สาระสำคัญของการเสนอแก้ไขร่าง พ.ร.บ.กกต.คือ การเพิ่มมาตรา 28/1 กำหนดให้มีคณะกรรมการคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้ง มาทำหน้าที่คัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้ง แทนการให้ กกต.ไปออกระเบียบคัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งเหมือนใน พ.ร.บ.กกต.ฉบับปัจจุบัน เนื่องจาก สนช.หลายคนห่วงใยการให้ กกต.ไปออกระเบียบการคัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้ง อาจมีความหละหลวม ไม่รอบคอบรัดกุมเพียงพอ เพราะระเบียบ กกต.สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามยุคสมัยของกกต.แต่ละชุดที่เข้ามาทำหน้าที่ อาจเป็นช่องว่างให้การได้มาซึ่งผู้ตรวจการเลือกตั้งถูกครอบงำจากฝ่ายการเมืองได้ในอนาคต ดังนั้นจึงควรกำหนดที่มาผู้ตรวจการเลือกตั้งให้ชัดเจนว่า มาจากคณะกรรมการคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้ง โดยระบุลงใน พ.ร.บ.กกต.โดยตรง ทั้งนี้ โครงสร้างของคณะกรรมการคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้ง มี 7 คน ประกอบด้วย 1. ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน 2. หัวหน้าผู้พิพากษาจังหวัด 3. หัวหน้าสำนักงานอัยการจังหวัด 4. ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด 5. ประธานหอการค้าจังหวัด 6. ประธานอุตสาหกรรมจังหวัด 7. ผอ.กกต.จังหวัด ทำหน้าที่คัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งอย่างน้อย 16 คนต่อจังหวัด เพื่อส่งต่อให้ กกต.คัดเลือกให้เหลือ 8 คนต่อจังหวัด

นอกจากนี้ หากให้ผู้ตรวจการเลือกตั้งมีที่มาจากระเบียบ กกต. อาจเกิดความไม่เป็นเอกภาพในการทำงาน เพราะ กกต.ชุดเก่าเป็นผู้คัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้ง แต่ กกต.ชุดใหม่เป็นผู้เข้ามาปฏิบัติงาน เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงหัวแล้ว ควรเปลี่ยนลำตัว แขนขาด้วย ไม่ใช่เอาหัวมาสวมอย่างเดียว อาจเกิดปัญหาการทำงานได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า ผู้ตรวจการเลือกตั้งที่ได้รับการคัดเลือกจาก กกต.ชุดปัจจุบันไม่ดี แต่ต้องการให้ที่มาผู้ตรวจการเลือกตั้งมีความชัดเจน รัดกุม ไม่มีเจตนาต้องการล้มผู้ตรวจการเลือกตั้งที่ได้รับการคัดเลือกจาก กกต.ชุดปัจจุบัน ผู้ผ่านการคัดเลือกจาก กกต.ชุดปัจจุบันก็มีสิทธิกลับมาดำรงตำแหน่งได้ หากผ่านเงื่อนไขตามกฎหมาย กกต.ที่เสนอแก้ไขใหม่ ในฐานะที่เสนอขอแก้ไข พ.ร.บ.กกต.ไม่ได้ซีเรียสจะต้องแก้ไขให้ได้ตามที่เสนอไป หากรัฐบาลหรือ กกต.เห็นว่ามีทางออกอื่นที่ดีกว่าก็ยอมรับ ไม่ได้ดันทุรังต้องเอาให้ได้ แค่เป็นห่วงว่าระเบียบเดิมที่ทำไปอาจเกิดปัญหาในอนาคต เป็นการทำด้วยความหวังดี ไม่ได้มีใบสั่งจากใครให้แก้ไข ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.ที่เสนอขอแก้ไขอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 ยังไม่รู้จะผ่านความเห็นชอบจากสนช.หรือไม่

ด้านนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สนช.กล่าวว่า ตนเป็นหนึ่งในสมาชิกที่ร่วมลงชื่อขอแก้ไขร่าง พ.ร.บ.กกต. โดยมีสาระสำคัญตอนหนึ่งระบุว่า กกต.ชุดปัจจุบันรีบร้อนตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้ง ไม่รอ กกต.ชุดใหม่เข้าปฏิบัติหน้าที่ คล้ายกับกรณีโยกย้ายข้าราชการภายใต้รัฐมนตรีคนที่จะหมดวาระ ขณะที่รัฐมนตรีคนใหม่ที่จะเข้ามาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตรรกะที่เกิดขึ้นจึงเห็นด้วยว่าการกระทำของ กกต.ชุดปัจจุบันน่าเกลียด เมื่อพูดถึงมารยาทแล้วไม่ควรทำ จึงลงนามรับรอง เพราะเห็นว่าเพื่อไม่ให้มีปัญหาควรรอ กกต.ชุดใหม่ดำเนินการเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้ง สิ่งที่ สนช.ทำไม่ใช่การแทรกแซงอำนาจของ กกต.ชุดปัจจุบัน แต่อย่างน้อยควรดึงไว้หน่อย อย่างไรก็ตาม ในที่สุดร่างแก้ไขกฎหมายฉบับนี้อาจแก้ไขหรือใช้ไม่ทันการเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้ง เพื่อเตรียมการเลือกตั้งก็ได้ เพราะยังมีหลายขั้นตอน ทั้งการเสนอไปยัง ครม. และการรอให้ กกต.เสนอร่างกฎหมายมาประกบ และการรับฟังความเห็นประชาชน กว่าที่เรื่องนี้จะสำเร็จคงตั้งผู้ตรวจเลือกตั้งครบทั้งประเทศแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเสนอแก้ไข พ.ร.บ.กกต. เรื่องการสรรหาผู้ตรวจการเลือกตั้งในครั้งนี้ มีสนช.เข้าชื่อเสนอขอแก้ไขทั้งหมด 36 คน เป็น สนช.สายพลเรือนทั้งหมด ไม่มีสายทหารร่วมลงชื่อ เพื่อให้เห็นว่า ไม่มีทหารเข้ามาเกี่ยวข้องในการแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ โดยมีนายมหรรณพ เดชวิทักษ์ เป็นแกนนำรวบรวมรายชื่อ และมี สนช.อาทิ นายกล้านรงค์ จันทิก นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ร่วมลงชื่อ เพราะเห็นว่ากระบวนการสรรหาผู้ตรวจการเลือกตั้งตาม พ.ร.บ.กกต.ฉบับปัจจุบันยังไม่มีความรัดกุม โดยแนวทางแก้ไขจะไปเพิ่มเติมในบทเฉพาะกาลให้ผู้ตรวจการเลือกตั้งชุดเก่าที่ กกต.ชุดปัจจุบันสรรหาไว้แล้วให้พ้นสภาพไป และให้มีการดำเนินการสรรหาใหม่ตามกระบวนการที่นายมหรรณพนำเสนอในรอบนี้ ซึ่งเป็นแนวทางที่ผู้ใหญ่ในรัฐบาลเห็นสอดคล้องด้วย ส่วนหนึ่งเนื่องจากรายชื่อผู้ตรวจการเลือกตั้งที่ กกต.ชุดปัจจุบันเห็นชอบในขณะนี้ ส่วนใหญ่ถูกมองว่าอิงกับฝ่ายการเมืองบางขั้วมากเกินไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ www.senate.go.th ได้นำเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ฉบับที่ 36 สนช.เข้าชื่อเสนอแก้ไข มาลงในเว็ปไซต์เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 โดยมีกำหนดรับฟังความคิดเห็นเป็นเวลา 15 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 3-18 ส.ค. โดยผลสำรวจความเห็นของประชาชนล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 3-6 ส.ค. รวม 4 วัน มีผู้เข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็นเกือบ 1,200 ครั้ง ผลปรากฏว่ามีผู้เห็นด้วยต่อการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเกือบ 100% ใน 6 คำถามที่มีการตั้งประเด็นให้ตอบ โดยมีผู้แสดงความไม่เห็นด้วยเพียงไม่กี่เสียงเท่านั้น ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวได้ทดลองร่วมแสดงความคิดเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว พบว่า การเข้าไปตอบแบบสอบถามนั้นไม่จำเป็นต้องกรอกชื่อ นามสกุล เลขที่บัตรประชาชน เพื่อยืนยันความมีตัวตน โดยจะเข้าไปตอบแบบสอบถามร่วมแสดงความคิดเห็นกี่ครั้งก็ได้ ไม่มีการจำกัดช่วงเวลา


กำลังโหลดความคิดเห็น