xs
xsm
sm
md
lg

“อลงกรณ์” ชี้เป็นสิทธิ ปชป.ฟ้อง “นคร” ติงพูดจริงครึ่งเดียวเงียบทุจริต เตือนอย่าไป พท.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

อลงกรณ์ พลบุตร (แฟ้มภาพ)
“เสี่ยจ้อน” เผยเป็นสิทธิ ปชป.ฟ้อง “นคร” เพื่อปกป้องชื่อเสียงพรรค เจ้าตัวก็พร้อมเปิดหลักฐานในศาล แต่ติงพูดจริงครึ่งเดียวไม่กล่าวถึงทุจริต เบรกน้องอย่าเข้าเพื่อไทยจะถูกครหาเผาบ้านเก่าเพื่อเป็นใบเบิกทาง

วันนี้ (2 ส.ค.) นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นกรณีพรรคประชาธิปัตย์จะฟ้องนายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.วันนี้ว่า เป็นสิทธิโดยชอบของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะฟ้องร้องต่อศาลหรือแจ้งความดำเนินคดีเพื่อปกป้องชื่อเสียงเกียรติภูมิเพราะข้อกล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิดดำเนินการอย่างเป็นขบวนการโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งด้วยวิธีการนอกแนวทางระบอบประชาธิปไตยนั้นเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงและมีโทษร้ายแรงถึงขั้นยุบพรรค อีกทั้งนายนครเองก็ยืนยันว่าพร้อมจะนำพยานหลักฐานเข้าพิสูจน์ในชั้นศาล ตนเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการรับรู้ของสาธารณชนถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของปัญหาการเมือง เพื่อจะได้ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงและหาทางแก้ไขปฏิรูปการเมืองให้ดีขึ้นต่อไปเนื่องจาก 10 ปีที่ผ่านมาที่ระบบการเมืองแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น มีการทุจริตคอร์รัปชันกันมากมายในระยะหลังทำให้การต่อสู้ทางการเมืองเริ่มใช้วิธีการนอกลู่นอกรอยสร้างความแตกแยกแบ่งประชาชนเป็นฝักฝ่าย ใช้ความรุนแรงประหัตประหารกันจนเกือบเกิดสงครามกลางเมือง ในที่สุดก็รักษาประชาธิปไตยไว้ไม่ได้ เกิดการรัฐประหารในที่สุด เหมือนวงจรอุบาทว์ เป็นเช่นนี้ 13 ครั้งตั้งแต่ปี 2475 เป็นต้นมา

ส่วนการขอโทษอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ของนายนคร มาฉิมเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่เหตุผลที่นายนคร มาฉิม ยกขึ้นมานั้นเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียว เหมือนด้านเดียวของเหรียญซึ่งควรที่จะมีการพิสูจน์ความจริงในข้อกล่าวอ้างดังกล่าวจะในทางศาล หรือการชี้แจงข้อเท็จจริงจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่สิ่งที่นายนครไม่กล่าวถึงคือปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน และการใช้อำนาจอย่างฉ้อฉล รวมทั้งการเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมแบบสุดซอยเพื่อตนเองและพวกพ้องจนถูกสื่อมวลชนขนานนามว่าเป็นยุคโคตรโกง หรือโกงทั้งโคตร และเป็นสาเหตุข้ออ้างหนึ่งของการรัฐประหารในปี 2549 และ 2557 และนายนครเองก็เคยร่วมคณะตรวจสอบการทุจริตที่ตนเป็นประธานในช่วงปี 2545-2549 ย่อมทราบดีว่าอะไรเป็นอะไร

สำหรับนายนครนั้น โดยส่วนตัวรู้จักและเคยทำงานร่วมกันในพรรคประชาธิปัตย์และในสภาผู้แทนฯ กว่า 10 ปี ถือว่าเป็นนักการเมืองที่ดีมีอุดมการณ์ประชาธิปไตย ยึดมั่นระบบรัฐสภา และต่อต้านเผด็จการชัดเจน ตนไม่รู้เหตุผลหรือเหตุจูงใจในการแสดงออกล่าสุดในครั้งนี้ แต่ในฐานะพี่อยากแนะนำน้องว่าอย่าเข้าพรรคเพื่อไทย มิฉะนั้นจะถูกมองว่าการแสดงออกล่าสุดเป็นเพียงใบเบิกทางตีตั๋วเข้าพรรคเพื่อไทยโดยเผาบ้านเก่าทิ้งเท่านั้น นายนครควรเข้าพรรคอื่นที่มีอุดมการณ์ตรงกันจะดีต่ออนาคตทางการเมืองในวันข้างหน้า


กำลังโหลดความคิดเห็น