“เทพเทือก” ร่วมงานบวชถวายพระราชกุศลรุ่นพิเศษ พร้อมเดินหน้าโครงการต่อ มั่นใจหลังเลือกตั้ง “รปช.” เป็นรัฐบาลแน่ ย้ำไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ เรียกร้อง ปชช.ร่วมงานพรรค
วันนี้ (25 ก.ค.) เมื่อเวลา 08.00 น. ที่วัดธารน้ำไหล สวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี นายประเวศ ไทยประยูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานโครงการบรรพชาอุปสมบทเพื่อปฏิบัติธรรม ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รุ่นที่ 35 ซึ่งในการอุปสมบทครั้งนี้มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) นายเจริญศักดิ์ วงศ์สุวรรณ นายอำเภอไชยา และนายคุณัญพงษ์ ทหารไทย ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าร่วมงานด้วย
นายสุเทพกล่าวว่า เป็นตัวแทนของสมาชิกมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) มาร่วมในพิธีบรรพชาอุปสมบทในโครงการบรรพชาอุปสมบทเพื่อปฏิบัติธรรม ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่วัดสวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี โครงการนี้ได้เริ่มมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 และบวชพระต่อเนื่องมาทุกเดือนติดต่อกันมาโดยบวชพระมาแล้ว 1,062 รูป ยังครองเพศบรรพชิตตามวัดต่างๆ 84 ยังคงอยู่ที่วัดสวนโมกข์อีก 19 รูป
การบวชในวันนี้เป็นการบวชรุ่นพิเศษ คือ บวชเพื่อปฏิบัติธรรมเป็นเวลา 1 พรรษามีพระธรรมโมลี เจ้าคณะภาค 16 เป็นพระอุปัชฌาย์ และขอให้ท่านทั้งหลายร่วมอนุโมทนาบุญในครั้งนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนท่านใดสนใจจะเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในรุ่นต่อไป สามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานโครงการบรรพชาอุปสมบทเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดชฯ วัดธารน้ำไหล สวนโมกขพลาราม หมายเลขโทรศัพท์ 081-397-3737, 083-085-9404 ทั้งนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นในการบรรพชาอุปสมบท
นายสุเทพยังกล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการเข้าร่วมงานโครงการบรรพชาอุปสมบทเพื่อปฏิบัติธรรมฯ กับ ประชาชนที่มาในงานดังกล่าวตอนหนึ่งว่า ตอนนี้ตนกำลังร่วมมือกับประชาชนที่เคยออกมาเดินขบวนด้วยกัน มาต่อสู้กันเพื่อบ้านเมือง เรากำลังจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ที่จะเป็นพรรคการเมืองที่แท้จริงของประชาชน มีอุดมการณ์ข้อแรกจงรักภักดีปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เราต้องรู้คุณค่าความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ นับตั้งแต่ตั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี รวมชนเผ่าไทย ตั้งเป็นประเทศขึ้นมา พระมหากษัตริย์ได้สร้างประเทศ ปกป้องประเทศ ทำศึกสงครามรักษาเอกราชของประเทศ พัฒนาประเทศให้เจริญทันสมัยมาจนถึงพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ทรงคุณอันประเสริฐ สำหรับประชาชนชาวไทย และเป็นหน้าที่ของเราชาวไทยแสดงความจงรักภักดีเทิดทูนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เป็นศูนย์รวมใจของชาวไทยต่อไป สถาบันนี้หมายถึงความมั่นคง เป็นอกภาพของประเทศ
อุดมการณ์ข้อที่ 2 การปกครองบ้านเมืองนี้ ต้องเป็นธรรมาธิปไตย ปกครองโดยธรรม โดยความถูกต้อง การเมืองต้องเป็นการเมือง ที่ประกอบด้วยธรรม พรรคการเมืองก็ต้องเป็นพรรคของพระธรรม ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองตามคำสอนของพระศาสนา นักการเมืองต้องเป็นคนดีมีศีลธรรม ประพฤติปฏิบัติธรรม ทำตัวให้เป็นตัวอย่าง ไม่ทำชั่ว และนักการเมืองพรรคการเมืองต้องปฏิบัติหน้าที่ทางการเมือง เหมือนปฏิบัติธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน
อุดมการณ์ข้อที่ 3 อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย การเมืองในประเทศไทยต้องเคารพประชาชน ต้องฟังประชาชน นักการเมืองเป็นผู้รับใช้ประชาชนต้องทำตามเจตนารมณ์ของประชาชน ไม่ใช่นักการเมืองอวดดีชี้นำผิดๆ ถูกๆ บ้านเมืองเสียหายไม่ได้แล้ว ข้อที่ 4 พรรคการเมืองนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อปฏิรูปเปลี่ยนแปลงประเทศไทย เพื่อประชาธิปไตยที่สมบูรณ์มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข
อุดมการณ์ที่ 5 พรรคการเมืองนี้จะน้อมนำ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ศาสตร์พระราชา เอามาปฏิบัติให้ทั่วถึง เพื่อช่วยเหลือประชาชน ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน อุดมการณ์ข้อที่ 6 พรรคการเมืองนี้มุ่งมั่นรณรงค์ให้สมาชิกพรรคและประชาชนทั่วไปรักชาติ ภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทย ขนบธรรมเนียมจารีตประเพณี ที่ดีงามที่บรรพบุรุษได้ถ่ายทอดมาเป็นมรดก มวลประชาชาติภูมิใจ และทะนุบำรุงธำรงไว้ ไม่ต้องไปตามฝรั่งมังค่า ของไทยมีเอกลักษณ์ดีอยู่แล้ว ต้องรักษาคุณค่าความเป็นไทย ประเภทที่บอกว่าไม่ต้องไหว ไม่ต้องไหวครูไม่ต้องเคารพพ่อแม่ นั่นมันฝรั่งต่างชาติเราไม่เอาอย่างนั้นเพราะไม่ใช่ไทยและอุดมการณ์ข้อที่ 7 คือพรรคนี้ มุ่งที่จะดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งเรื่องกาศ น้ำ อาหารมุ่งให้ประชาชนมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัย วันนี้เราเป็นโรคแปลกๆกันมากสิ่งแวดล้อมเสียหายถึงเวลาแล้วที่เราต้องดูแลอย่างจริงจังให้คนไทยมีชีวิตอยู่ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
นายสุเทพกล่าวอีกว่า ที่กล่าวในวันนี้ไม่ใช่การเมืองเพื่อคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของส่วนรวม ท่านอาจารย์พุทธทาสพิมพ์หนังสือเป็นเล่มชื่อ “ธรรมะกับการเมือง” และบอกว่าคนทุกคนต้องสนใจการเมือง เป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องเลือกคนดี ดูแลให้คนดีทำการเมืองเพื่อประโยชน์ของชาติ ของส่วนรวมและรักษาธรรมะไว้ ประชาชนเองก็ต้อมีธรรมะเพื่อปฏิบัติเช่นกันในเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับการเมือง
นายสุเทพกล่าวอีกว่า ถึงแม้ว่าตนจะเป็นกำลังสำคัญในการจัดตั้งพรรค รปช. ตนก็จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส. เพราะเคยประกาศกับประชาชนที่ร่วมเดินขบวนตอนนั้นว่าตนไม่หวังที่จะมีตำแหน่งใด จะไม่เป็นคณะกรรมการบริหารพรรคไม่เป็นหัวหน้าพรรค ไม่เป็นกรรมการพรรค และขอบอกพี่น้องประชาชนว่า พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เป็นรัฐบาลแน่นอนหลังเลือกตั้ง ตนก็จะไม่รับตำแหน่งเป็นรองนายกฯ หรือเป็น รัฐมนตรีที่ไหนทั้งสิ้น เรียกว่าทำพรรคการเมืองคราวนี้ไม่ใช่ประโยชน์ตัวเอง ทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชน ไม่เคยมีพรรคการเมืองที่พรรคการเมืองที่แท้จริงของประชาชนในประเทศไทย นี่จะเป็นพรรคแรก ขอเชิญพี่น้องประชาชนคอยติดตามและถ้าใครมีอุดมการณ์เดียวกันก็มาร่วมกันเป็นเจ้าของพรรคมาสนับสนุนกัน